(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลง-ผันผวนตามตปท.บาทแข็งค่าหนัก-โภคภัณฑ์ดีดตัว

สำหรับปัจจัยในประเทศยังมีความกดดันเกี่ยวกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าทางการอาจมีมาตรการออกมาสกัดกั้น ส่วนตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าแกว่งตัวผันผวนทั้งบวกและลบ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐซบเซาเหนือความคาดหมาย แต่หุ้นกลุ่มเหมืองกลับปรับตัวสูงขึ้นเพราะราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้นมา

พร้อมให้แนวต้านวันนี้ที่ 1,530 จุด แนวรับ 1,504 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(18 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,537.14 จุด ลดลง 81.45 จุด(-0.56%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,541.61 จุด ลดลง 10.40 จุด(-0.67%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,166.36 จุด ลดลง 38.31 จุด(-1.20%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 48.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 5.42 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 77.55 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.71 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 9.34 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.56 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 9.90 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(18 เม.ย.)ที่ 1,529.76 จุด เพิ่มขึ้น 8.23 จุด(+0.54%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 935.22 ล้านบาท เมื่อ 18 เม.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(18 เม.ย.)ที่ 87.73 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ฯ
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(18 เม.ย.)ที่ 4.8 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 28.71.73 บาท/ดอลลาร์ จากเงินทุนไหลเข้า
• ค่าเงินบาทแข็งค่าทุบสติถิใหม่รอบ16 ปี เหตุกองทุนญี่ปุ่นหนีมาตรการคิวอี แห่ซื้อพันธบัตรระยะยาว นักวิเคราะห์ชี้นักลงทุน ขายสินทรัพย์เสี่ยงทุกประเภท หวั่นฟองสบู่ ขณะสอท.เตรียมยื่นมาตรการช่วยส่งออก
• "ทีดีอาร์ไอ"ติงโครงการพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขาดการศึกษาผลกระทบ 11 โครงการ คิดเป็นวงเงินใช้งบประมาณกว่า 9 แสนล้านบาท แนะ แก้ไขร่าง พ.ร.บ.ปิดทางใส่โครงการอื่นสอดไส้เข้ามาแทนโครงการ ไร้ผลการศึกษา จี้นำเงินกู้ส่วนเกินเหลือใช้ ชำระหนี้เงินกู้แทนนำกลับเป็นรายได้แผ่นดิน
• ราคาทองคำเมื่อวานนี้ยังผันผวน สมาคมค้าทองคำประกาศราคาถึง 9 รอบ ครั้งแรกดิ่งลงไป 350 บาท ก่อนที่จะปรับขึ้นครั้งละ 50 บาท จนในที่สุดราคามาหยุดที่ทองคำแท่งรับซื้อ 18,900 บาท ขายออก 19,000 บาท เพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้า
• การประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.)เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ยังไม่มีมติอนุมัติสัญญาการให้บริการ 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ของบริษัทที่ได้รับใบอนุญาต 3 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค บริษัท ดีแทค เนทเวอร์คและบริษัท เรียล ฟิวเจอร์
• ไตรมาสแรกกลุ่มแบงก์โชว์กำไรพุ่ง ถ้วนหน้าเมื่อเทียบกับปีก่อน ผลจากรายได้ดอกเบี้ย-ค่าต๋ง และกำไรจากจากลงทุนเพิ่มขึ้นโดย"ไทยพาณิชย์"รับกำไร 1.31 หมื่นล้านบาท ขณะที่"ทีเอ็มบี"กำไรเพิ่มขึ้นมากสุด 125% ส่วนกลุ่มทิสโก้ ขยับเพิ่มเกือบ 40% "ชาติศิริ" แย้มแบงก์กรุงเทพ กำไรไตรมาสแรกมีแนวโน้มดี แม้สินเชื่อทรงตัว
• "แบงก์ชาติ"ยืนยันเอ็นพีแอลสินเชื่อ เช่าซื้อรถยนต์ไม่สร้างปัญหา เหตุมีหลักประกันเป็นรถยนต์สามารถยึดคืนได้ ระบุที่ผ่านมาคุณภาพสินเชื่อยังเข้ม ชี้แบงก์ส่วนใหญ่บังคับลูกค้าวางดาวน์ 20% โอกาสทิ้งผ่อนน้อย เตือน "นอนแบงก์" บางรายออกโปรโมชั่นไม่ต้องวางดาวน์ หวั่นเสี่ยงถูกเบี้ยวสูง
• แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การดำเนินการตามแผนฟื้นฟูของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ที่ได้ความเห็นชอบจากคลังให้แก้ไขหนี้เสีย 3.1 หมื่นล้านบาท โดยเริ่มดำเนินการตามแผนมาตั้งแต่เดือน ม.ค.2556 ที่ผ่านมา พบว่า การแก้ไขหนี้เสียของธนาคารยังต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ทุกเดือน

*หุ้นเด่นวันนี้

• กองทุน BTSGIF เข้าซื้อขายวันนี้วันแรก/(ดีบีเอส)มองน่าสนใจ"ซื้อลงทุน"ในระยะยาว เพราะรายได้นมีความสม่ำเสมอและต่อเนื่องจากรายได้ค่าโดยสารสุทธิในอนาคตจากการดำเนินงานระบบสัมปทานรถไฟฟ้า BTS อีก 17 ปี และรายได้ในอนาคตมีโอกาสเติบโตซึ่งมาจากทั้งการเพิ่มจำนวนตู้รถไฟฟ้า และปรับเพิ่มค่าโดยสาร อีกทั้งยังสามารถขยายกองทุนโดยการลงทุนในระบบขนส่งมวลชนทางรางอื่นๆ เพิ่มเติม พร้อมประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 12.00 บาท โดยมีราคาเสนอขายที่ 10.80 บาท/หน่วย
• STANLY(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 300 บาท คาดกำไร 4Q55 (ม.ค —มี.ค.56)ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตามแนวโน้มยอดผลิตรถยนต์ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 56 ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง เติบโต 44% YoY อีกทั้งความสามารถในการทำกำไรมีแนวโน้มดีขึ้นหลังจากสามารถเดินเครื่องการผลิตในโรงงานใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ในปี 56 ยังมีโอกาสได้รับเงินสินไหมประกันกรณีน้ำท่วมจากบริษัทประกันเพิ่มเข้ามาเป็นกำไรพิเศษอีกด้วย
• INET(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 4.50 บาท มีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานปีนี้จะพลิกกำไร 59 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 2 ล้านบาทในปี 2555 ให้น้ำหนักกำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากความพร้อมให้บริการศูนย์ IDC เสร็จสมบูรณ์กลางปีนี้ จะรองรับบริการที่มีมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น แนวโน้ม 1Q56 เบื้องต้นคาดว่าจะมีกำไรราว 10 ล้านบาทพลิกจากขาดทุนสุทธิ 11 ล้านบาทใน 1Q55
• INTUCH(ดีบีเอส)"ซื้อ"ราคาหุ้นยังซื้อขายกันที่ส่วนลดสูงถึง 22% เมื่อเทียบกับมูลค่าที่เหมาะสมที่ 106 บาท และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจที่ระดับ 5.2% และ 6.7% ในปี 2556-2557 อีกทั้งการซื้อ INTUCH จะได้ราคาของ ADVANC ที่ถูกกว่าซื้อ ADVANC โดยตรง