"การขยายกำลังการผลิตเนื่องจากมีออเดอร์ชัดเจนอยู่แล้ว และเป็นการลงทุนรองรับ AEC เพราะมีการเปิดตลาด AEC จะทำให้ธุรกิจรถบรรทุกขนาดใหญ่ได้อานิสงส์ จึงอยู่ระหว่างพิจารณาจะรับผลิตชิ้นส่วนอะไรของรถบรรทุกได้บ้าง"นายยงเกียรติ กล่าว
สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าในประเทศอินโดนีเซีย 1 ราย หลังจากล้มดีลลูกค้ารายแรกในการรับผลิตชิ้นส่วนรถปิคอัพ ส่วนการเจรจาลงทุนในอินเดีย ยังไม่มีความคืบหน้า
ในปี 56 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศที่คาดว่าปีนี้จะมียอดการผลิตรถยนต์ที่ 2.5-2.6 ล้านคัน เติบโต 6% จากปีก่อนมียอดการผลิต 2.4 ล้านคัน โดยยอดขายกลุ่มรถยนต์เพื่อการเกษตร คือ คูโบต้า น่าจะเติบโตได้มาก คาดว่าจะมียอดผลิตที่ 6.5 หมื่นคันเติบโต 20% ทั้งนี้สัดส่วนยอดขายของบริษัท เป็นชิ้นส่วนรถปิคอัพ 70% รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 7% อีโอคาร์ 3% และ คูโบต้า 10%
นอกจากนั้น ขณะนี้บริษัทมีแผนจะนำเข้าเหล็กจากเกาหลี จีน และอินเดียมาใช้เป็นวัตถุดิบมากขึ้น จากเดิมที่นำเข้าทั้งหมดจากญี่ปุ่น เนื่องจากเหล็กของญี่ปุ่นมีต้นทุนสูงกว่า จึงมีการปรับกลยุทธเพื่อบริหารต้นทุน โดยเริ่มให้ลูกค้าทดสอบเหล็กที่นำเข้าจากจีนและเกาหลีแล้ว