สำหรับผลประกอบการในปี 56 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจโรงแรมไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท จากปี 55 ที่มีรายได้ธุรกิจโรงแรม 912 ล้านบาท และในไตรมาส 4 /56 จะมีรายได้จากการโอนคอนโดมิเนียม Hyde สุขุมวิท ราว 2 พันล้านบาท จากปัจจุบันมียอดขาย 75% ของมูลค่าโครงการ 5.14 พันล้านบาท
พร้อมกันนั้น บริษัทคาดว่าปีนี้จะพลิกมีกำไรได้ จากปีก่อนขาดทุน 416 ล้านบาท นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้ ยังได้อนุมัติการขายโรงแรมคราวน์ พลาซ่า สุขุมวิท มูลค่า 1.5 พันล้านบาท โดยจะมีการบันทึกรายได้ในไตรมาส 2/56
นายนพดล กล่าวอีกว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น มีการปรับโครงสร้างการเงิน ทำให้การดำเนินธุรกิจอยู่ภายใต้ข้อจำกัด จึงยังไม่มีการรับรู้รายได้ในธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ ส่วนธุรกิจโรงแรมถือเป็นรายได้ในระยะยาว ซึ่งโรงแรมเชอราตัน หัวหิน-ชะอำ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตยุโรป ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้หายไป ทำให้ยังมีผลประกอบการขาดทุน แต่โรงแรมเวสเทิน แกรนด์ ซิตี้ มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3/55 - ปัจจุบัน เฉลี่ย 80-90% ยังสามารถสร้างผลกำไรได้ต่อเนื่อง เนื่องจากไม่มีภาระค่าเสื่อมราคา และดอกเบี้ยจ่าย
สำหรับโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ แกรนด์ สุขุมวิท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาออกแบบก่อสร้าง คาดเริ่มก่อสร้างในกลางปี 56 และเปิดบริการได้ในไตรมาส 2/58 บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มอีก 140 ล้านบาท เพื่อสร้างห้องบอลลูม รองรับงานจัดเลี้ยง สัมมนา ที่โรงแรมเชอราตัน หัวหิน-ชะอำ เพื่อลดการพึ่งพาลูกค้านักท่องเที่ยวกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คาดว่าเริ่มก่อสร้าง ในไตรมาส 4/56 แล้วเสร็จในไตรมาส 3-4/57 คาดคืนทุนใน 4 ปี
คณะกรรมการยังอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ เพื่อรับรู้รายได้ต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจระยะยาว สร้างผลกำไรไม่มาก โดยในปีนี้ คาดว่าจะได้เห็นโครงการคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการ มูลค่าหลักพันล้านบาท ทำเลตามแนวรถไฟฟ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาจัดซื้อที่ดิน
"ในปีนี้คาดว่าอัตราการเข้าพักโรงแรมเฉลี่ยอยู่ที่ 75-80%...เราไม่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า เพราะรับรายได้เป็นเงินบาท ...มองว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เกิดฟองสบู่ แต่ที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งค่าที่ดิน การปรับขึ้นค่าแรง ทำให้วัตถุดิบต่างๆปรับสูงขึ้น" นายนพดล กล่าว
สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม Hyde สุขุมวิท ขณะนี้มียอดขายที่ 401 ห้อง คิดเป็น 88% ของจำนวนห้องพักทั้งหมด 454 ห้อง หรือคิดเป็น 75% ของมูลค่าโครงการที่ 5.14 พันล้านบาท คาดว่าในไตรมาส 4/55 จะเริ่มโอนและรับรู้รายได้ราว 2 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือรับรู้รายได้ในปีหน้า โดยโครงการดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 40-45% "ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ทั้งการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงแกรม และการโอนคอนโดฯ Hyde สุขุมวิท ปีนี้เราจะล้างขาดทุนได้ 3 ใน 4 จากขาดทุนสะสมที่มี 1 พันล้านบาท และล้างได้หมดในปี 57" นายนพดล กล่าว