โบรกฯเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC)คาด 24 เม.ย.ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/56 มีโอกาสเติบโตถึง 25.9% YoY และ 8.7% QoQ แรงส่งในเกือบทุกธุรกิจ แนวโน้มไตรมาสที่เหลือของปียังดีต่อเนื่อง โดยไตรมาสแรกของปีนี้ธุรกิจปูนซิเมนต์และและวัสดุก่อสร้างยังเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ด้านปิโตรเคมีส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์ก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซื้อ 506 บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ซื้อ 535 บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 490 บล.ทิสโก้ ซื้อ 526 บล.ดีบีเอสวิคเกอร์ส(ประเทศไทย) ซื้อ 580
นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองว่า กำไร SCC ในไตรมาส 1/56 ที่ 7,350 ล้านบาท (+6%qoq,+23%yoy) หลักๆ มาจากธุรกิจปูนซิเมนต์และวัสุดก่อสร้าง โดยคาดไตรมาสแรกของปีนี้ตัวเลขยอดขายปูนจะเติบโต 15% และธุรกิจวัสดุก่อสร้างเป็นทิศทางเดียวกันเติบโต 2 หลัก ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ช่วยผลักดันกำไรของ SCC ให้ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีก็มีสเปรดดีขึ้นด้วย
แนวโน้มไตรมาส 2/56 กำไรมีโอกาสจะดีขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง เพราะจะได้รับเงินปันผลจากโตโยต้าเข้ามาเสริมอย่างน้อย 2,500-2,600 ล้านบาท เมื่อบวกกับกำไรปกติที่คาดราว 6,000 ล้านบาท ซึ่งปกติไตรมาส 2 ผลประกอบการจะชะลอลงเพราะเป็นช่วงหน้าฝนและมีวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ แต่ปีนี้ได้ปันผลจากโตโยต้าเข้ามาเสริม คาดว่าค่อนข้างมากเพราะยอดขายรถดี ปกติโตโยต้าจะปิดงบปีในเดือน มี.ค.และจ่ายปันผลในไตรมาส 2 ของปีปกติ
ขณะที่บทวิเคราะห์ของ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)ระบุว่า เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของผลประกอบการที่ชัดเจน และคาดว่าวัฏจักรขาขึ้นของกำไรน่าจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 56 เป็นต้นไป โดยประเมินกำไรสุทธิของ SCC ในไตรมาส 1/56 จะเติบโตอย่างน่าประทับใจที่ 25.9% YoY คาดว่าแรงส่งจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 56 ไว้ที่ 3.06 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.9% YoY
ปัจจัยหลักที่จะช่วยสนับสนุนผลประกอบการของบริษัท ได้แก่ ส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญดังที่เห็นในไตรมาส 1/56 แสดงว่าภาวะตกต่ำของธุรกิจเคมีภัณฑ์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว การบริโภคในประเทศยังคงแข็งแกร่ง และช่วยสนับสนุนการเติบโตของผลการดำเนินงานจากธุรกิจปูนซีเมนต์และกระดาษของ SCC
นอกจากนี้ ยังเห็น upside ของผลประกอบการจากการที่บริษัทขยายการลงทุนใน ASEAN อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทจะเริ่มส่งผลบวกต่อผลประกอบการในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้จากแนวโน้มที่สดใสของบริษัท
นายณภัทร จันทรเสรีกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเกอร์ส(ประเทศไทย)คาดวันที่ 24 เม.ย. SCC จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/56 กำไรน่าจะออกมาดีทั้ง yoy และ qoq หลักๆเป็นเรื่องส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์ที่ดีขึ้น หรือดีในเกือบทุกธุรกิจ ทั้งปูนซิเมนต์ ปิโตรเคมี Building Materials และแนวโน้มไตรมาส 2/56 น่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 1 โดยเฉพาะสเปรดปิโตรเคมีดีขึ้นจากไตรมาส 1/56 เพราะผ่านมา 1 เดือนส่วนต่างราคาดีขึ้นมามากแล้ว