การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,564.51 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,546.76 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 232 หลักทรัพย์ ลดลง 407 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 123 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนลบ ภายหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจภาคการผลิตของจีนออกมาขยายตัวช้าลง ทำให้เห็นถึงการชะลอตัว จึงทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราในช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับตัวขึ้นไปหลายวัน การตลาดฯจะปรับตัวลงบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา มองว่าเป็นแค่การ take profit เท่านั้น และก็ผิดหวังกับการประกาศงบฯของ KTB อีกทั้งเรื่องของเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีปัญหาต่อการส่งออก เชื่อว่าตรงนี้ภาครัฐฯอาจจะได้รับแรงกดดันจากผู้ประกอบการให้ต้องทำอะไรสักอย่าง ตลาดฯจึงเกิดความกังวลจึงขายทำกำไรออกมาบ้าง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(24 เม.ย.)นายธนเดช กล่าวว่า ถ้าดูปัจจัยต่างประเทศในภาพของยุโรป และสหรัฐฯยังดี ตลาดฯก็มีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ เพราะยังไม่เห็นปัจจัยลบสำคัญเข้ามาเพิ่ม ส่วนเงินบาทที่แข็งค่าไปทำให้การส่งออกไม่ดี ระยะสั้นอาจมีการหารือมาตรการแก้ปัญหา อาจสร้างความกังวลได้ พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1,570 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KTB มูลลค่าการซื้อขาย 2,952.92 ล้านบาท ปิดที่ 24.20 บาท ลดลง 1.30 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,506.13 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,151.19 ล้านบาท ปิดที่ 184.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,026.25 ล้านบาท ปิดที่ 28.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,903.58 ล้านบาท ปิดที่ 224.00 บาท ลดลง 3.00 บาท