ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.4% ปิดที่ 292.63 จุด ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งวันที่ 3 ส.ค.
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,658.21 จุด เพิ่มขึ้น 180.10 จุด หรือ 2.41% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,406.12 จุด เพิ่มขึ้น 125.50 จุด หรือ 2.00% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,783.05 จุด เพิ่มขึ้น 130.92 จุด หรือ 3.58%
ตลาดได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 2 พ.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 46.5 และ PMI เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของเยอรมนีในเดือนเม.ย.ลดลงสู่ระดับ 48.8 จาก 50.6 ในเดือนมี.ค. ซึ่งดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจของภูมิภาคยังเผชิญภาวะหดตัว
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกเพิ่มขึ้นหลังจากรัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการขายตราสารหนี้ระยะสั้นได้ตามเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 3 พันล้านยูโร (3.9 พันล้านดอลลาร์) ในการประมูลเมื่อวานนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลมากขึ้น
สเปนขายตั๋วเงินคลังอายุ 9 เดือนได้ 2.16 พันล้านยูโร ที่อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 0.79% เมื่อเทียบกับ 1% ในการประมูลเดือนมี.ค. และขายตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 855 ล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 0.12% ลดลงจาก 0.29% ในเดือนที่แล้ว
กระทรวงเศรษฐกิจของสเปนเผยว่า อัตราผลตอบแทนในการประมูลเมื่อวานนี้ถือเป็นสถิติต่ำสุดสำหรับตราสารหนี้ระยะสั้นดังกล่าว พร้อมทั้งยังเผยด้วยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในวันนี้ทำให้สเปนสามารถระดมทุนได้แล้ว 44.1% ของจำนวน 1.213 แสนล้านยูโรที่ตั้งเป้าไว้สำหรับตลอดทั้งปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังทะยานขึ้นขานรับผลประกอบการของภาคเอกชน โดยหุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปสำหรับไอแพดและไอโฟนของแอปเปิ้ลพุ่งขึ้น 7.4% หลังเปิดเผยรายได้ในไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
หุ้นริชมอนท์ พุ่งขึ้น 8.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด