นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้มีโอกาสปรับขึ้นหลังจากตลาดต่างประเทศเป็นบวกเกือบทุกแห่ง ขณะที่ประเด็นการแข็งค่าของเงินบาทยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามว่าสุดท้ายทางการจะมีแนวทางอย่างไรในการดูแลปัญหาดังกล่าวจะเป็นมาตรการดอกเบี้ยหรือมาตรการอื่น ซึ่งเชื่อว่าวันนี้คงยังไม่มีข้อสรุป
เพราะฉะนั้นในช่วงสั้นหากตลาดต่างประเทศเป็นบวก ตลาดหุ้นไทยก็มีลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,569 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านที่แข็งที่สุดในขณะนี้ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,530 จุด แนะ"เทรดดิ้ง"กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์
"ตลาดต่างประเทศปรับขึ้นค่อนข้างมากจากการประมูลพันธบัตรยุโรปอัตราผลตอบแทนพันธบัตร(Yield)ต่ำกว่าที่คาดไว้ และเป็นฤดูกาลประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน"นายเทิดศักดิ์ กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ล่าสุด(23 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,719.46 จุด เพิ่มขึ้น 152.29 จุด(+1.05%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,578.78 จุด เพิ่มขึ้น 16.25 จุด(+1.04%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,269.33 จุด เพิ่มขึ้น 35.78 จุด(+1.11%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 157.63 จุด ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 34.63 จุด ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 12.43 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.84 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.57 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 6.70 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้ที่ 1,549.35 จุด ลดลง 9.75 จุด(-0.63%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,218.71 ล้านบาท วานนี้
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ ที่ 89.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.1 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุดที่ 4.89 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 28.80/82 แข็งค่าจากวานนี้เล็กน้อย คาดวันนี้เคลื่อนไหวกรอบแคบ
- ซีพีออลล์ทุ่ม 1.88 แสนล้านซื้อหุ้นสยามแม็คโคร ประกาศสร้างเครือข่ายธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งทุกประเทศในอาเซียน เชื่อมโยงจีน เปิดช่องทางจำหน่ายสินค้าเครือซีพี ยันไม่มีแผนถอนออกจากตลาดหุ้น ด้านไทยพาณิชย์มั่นใจปล่อยกู้ไม่เสี่ยง ขณะพาณิชย์ระบุการซื้อกิจการ ส่งผลยอดขายเกือบ 50% เข้าข่ายอำนาจเหนือตลาด
- ค่าเงินบาทอ่อนค่ากังวลมาตรการแทรกแซง"ยิ่งลักษณ์"เรียกหน่วยงานเศรษฐกิจประชุมรับมือสถานการณ์บาทแข็งวันนี้ ด้าน"กิตติรัตน์"ยันแนวทางลดดอกเบี้ยเหมาะสม ขณะเอกชนชี้ส่งออกกระทบหนัก เรียกร้อง ธปท.ใช้ยาแรง
- กิจการร่วมค้าญี่ปุ่น-ไทย ตัดสินใจถอนตัวจากวงบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน เหลือ 5 กลุ่มบริษัทเอกชนชิงดำ 9 โมดูล กบอ.ยอมรับเอกชนถอยเพราะทีโออาร์กำหนดราคาเพดานสูงสุด พร้อมรับภาระเวนคืนชดเชยที่ดินจนไม่สามารถก่อสร้างทันเวลา หวั่นส่งผลขาดทุนและถูกฟ้องร้อง ขณะที่"โคเรียวอเตอร์"ตั้งทีมกฎหมายอุดช่องโหว่ทีโออาร์หวั่นเสียเปรียบรัฐ
- "ชาตรี โสภณพนิช" ไม่หวั่นเศรษฐกิจจีนร้อนแรง เดินหน้าขยายธุรกิจโตปีละ 5% รับธุรกิจไทยยังไปลงทุนในจีนน้อย แต่อาศัยฐานลูกค้าในภูมิภาคสร้างธุรกิจเป็นหลัก มั่นใจไม่สร้างความเสียหาย พร้อมดันลูกค้าไทยออกไปลงทุนมากขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 63.00 แม้ราคาซื้อ MAKRO แพงกว่ามูลค่าทางบัญชีถึง 18 เท่า และสูงกว่าราคาตลาด 15% แต่ระยะยาวเรามีมุมมอง“บวก”ต่อโอกาสเติบโต โดยเฉพาะผลจากการประหยัดต่อขนาด การใช้ประโยชน์ร่วมกันจากระบบกระจายสินค้า และโอกาสขยายสาขาต่างประเทศ คาดว่าผลควบรวมจะเริ่มเห็นเต็มปี 2557 เป็นต้นไป ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2556-2558 ของ CPALL จะเติบโตเฉลี่ย 24% (CAGR 2556-2558) ดีขึ้นเทียบกับก่อนควบรวมเติบโต 12%
- BGH(ธนชาต)"ซื้อ"เป้าหมาย 177 บาท และเป้าระยะสั้น 170 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ผลการดำเนินงาน 1Q13 ที่คาดว่าจะออกมาดี 2) กำไรทั้งปีเติบโต 27% ปีนี้ และ 18% ปีหน้า สูงกว่าการเติบโต SET และ 3) มีสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค
- PTTGC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้าลดราคาเป้าหมายเหลือ 81.00 บาท จาก 89 บาท แม้ผลประกอบการ 1Q56 คาดจะออกมาดีและคิดเป็น 36% ของประมาณการ FY2556 ของเรา แต่เรายังคงประมาณการปี 56 จากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q56 ที่คาดจะอ่อนตัวลง อีกทั้งความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่แย่กว่าคาด ยังส่งผลกดดันอุปสงค์ปิโตรเคมี เพื่อสะท้อนความเสี่ยงดังกล่าวและเพื่อให้สอดคล้องกับ IRPC ที่ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้า