นายอดิศร ธนนัท์นราพูล รองกรรมการผู้จัดการ LH กล่าวว่า บริษัทจะเข้าซื้อสังหาริมทรัพย์ให้เช่าเพิ่มในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เพิ่มอีก 2 แห่ง โดยจะกู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเมื่อปีที่แล้วได้ซื้อโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ไปแล้ว 1 แห่ง มูลค่าราว 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากค่าเช่า
ส่วนการดำเนินธุรกิจในประเทศนั้น ไตรมาส 2/56 บริษัทจะมีการเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และบ้านเดี่ยว 2 โครงการ โดยตามเป้าหมายของบริษัทในปีนี้จะมีการเปิดโครงการทั้งหมด 24 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4.3 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นเตอร์พ้อยท์ วิทยุ และเซ็นเตอร์พ้อยท์ ราชดำริ เป็นต้น เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 3/56
ด้านนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ LH กล่าวถึงความกังวลภาวะฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า เริ่มมีสัญญาณ จากการที่ผูประกอบการให้วางเงินดาวน์ต่ำที่แค่ 5% ทำให้ลูกค้าที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ทิ้งใบจองเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม และคอนโดมิเนียมที่มีราคา 200,000 บาท/ตร.ม.เริ่มขายไม่ออกเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นปัญหาเกิดขึ้นในขณะนี้
"ภาวะฟองสบู่ในอสังหาฯเริ่มมีสัญญาณมาบ้างแล้วจากการที่การวางเงินดาวน์ต่ำอยู่ที่ 5% ทำให้ลูกค้าที่มาซื้อโครงการเมื่อได้ของแถมจากโปรโมชั่นส่วนใหญ่ก็ทิ้งใบจองไป โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม อยากให้มีมาตรการเกี่ยวกับเงินดาวน์ที่มีความเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น อยากให้เพิ่มเงินดาวน์ขึ้นมาอยู่ที่ 10% เพราะเงินดาวน์ที่ต่ำทำให้ตลาดอสังหาฯเติบโตมาก นอกจากนี้อยากให้คนที่จะเข้ามาเก็งกำไรในอสังหาโดยเฉพาะในคอนโดมิเนียมระวังการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันคอนโดราคา 200,000 บาท/ตร.ม. ขายไม่ค่อยออกจำนวนมากทำให้เป็นปัญหาเกิดขึ้นในขณะนี้" นายอนันต์ กล่าว