การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,560.34 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,550.05 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 301 หลักทรัพย์ ลดลง 327 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 141 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในแดนบวก แต่หากเทียบกับตลาดเพื่อนบ้านถือว่าปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่า ขณะที่ปัจจัยภายนอกอิงทางด้านบวกชัดเจน สาเหตุหลักจากนักลงทุนรอความชัดเจนการใช้มาตรการแก้ไขปัญหาบาทแข็งที่คาดว่ารัฐบาลและเศรษฐกิจอยู่ระหว่างการพิจารณา ดังนั้น ตลาดอาจจะยังไม่กล้าขยับไปไหนไกลคงเคลื่อนไหวขึ้นและลงในกรอบจำกัด
แนวโน้มพรุ่งนี้ ดัชนีมีโอกาสแกว่งในกรอบ 1,540-1,560 จุด จนกว่าจะมีความชัดเจนเหรือมีข้อมูลใหม่เข้ามา ทั้งนี้ขึ้นกับความรุนแรงของมาตรการที่ทางการจะนำมาใช้ หากไม่ใช่มาตรการที่เหนือความคาดหมายตลาดก็คงกระทบไม่มาก แต่ตอนนี้มองในแง่ของเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นค่อนข้างมาก ทำให้แรงกดดันที่มีต่อภาครัฐที่จะต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งคงจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ
กลยุทธ์ขณะนี้มองเทรดในกรอบ sideway ให้ถือหุ้น 50% จนกว่าจะมีความชัดเจนของปัจจัยที่รออยู่ และหากเหวี่ยงไปทางใดทางหนึ่ง เช่นลงต่ำกว่า 1,520 จุดก็อาจต้องปรับลดพอร์ต หรือหากเป็นทางขึ้นต้องรอให้ผ่าน 1,570-1,580 จุดขึ้นไปก่อนจึงจะพิจารณาปรับพอร์ต
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 19,167.19 ล้านบาท ปิดที่ 39.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 2,861.16 ล้านบาท ปิดที่ 754.00 บาท เพิ่มขึ้น 72.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,911.26 ล้านบาท ปิดที่ 189.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,867.58 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,719.12 ล้านบาท ปิดที่ 224.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง