(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าบวกลบเล็กน้อย กำไรบจ.หนุน-รอความชัดเจนดูแลค่าเงินบาท

ปัจจัยในประเทศมี 2 เรื่องคือผลประกอบการไตรมาส 1/56 และระหว่างวันรอดูความคืบหน้าเกี่ยวกับท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เกี่ยวกับมาตรการดูแลค่าเงินบาท

ส่วนตลาดต่างประเทศเช้านี้ซึมๆ เป็นเรื่องผลประกอบการของแต่ละประเทศเช่นกัน

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(24 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,676.30 จุด ลดลง 43.16 จุด(-0.29%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,578.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,269.65 จุด เพิ่มขึ้น 0.32 จุด(+0.01%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 44.07 จุด ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 8.33 จุด ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.57 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 7.45 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.68 จุด

ส่วนตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันทหารผ่านศึก

• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(24 เม.ย.)ที่ 1,553.85 จุด เพิ่มขึ้น 4.50 จุด(+0.29%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,559.42 ล้านบาท เมื่อ 24 เม.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ ที่ 91.43 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.25 0.1 เซนต์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(24 เม.ย.)ที่ 4.08 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 28.97/99 ตามแรงซื้อดอลล์ กังวลธปท.ออกมาตรการดูแล
• ส.อ.ท.เตรียมเสนอ 5 มาตรการดูแลค่าบาท ระบุกระทบคำสั่งซื้อไตรมาส 2-3, "กิตติรัตน์"ระบุหนักใจค่าบาท ธปท.แจงปัจจัยหลักมาจากพื้นฐานเศรษฐกิจและเงินทุนไหลเข้าพันธบัตร ลดดอกเบี้ยไม่มีผล ด้านนายแบงก์เผยแนวโน้มเงินไหลเข้าต่อเนื่อง แนะธุรกิจประกันความเสี่ยง ขณะส.อ.ท.เตรียมเสนอ 5 มาตรการให้รัฐบาล-ธปท.ชี้กระทบส่งออกไตรมาส 2-3
• "สมคิด"แนะรัฐบาลลงทุนพัฒนาประเทศ ให้รอบด้าน ชี้ 10 ปีไม่ปฏิรูปประเทศเศรษฐกิจทรุด "เศรษฐพุฒิ" ระบุภาระหนี้ต่องบประมาณไทยเสี่ยงสูงเฉียด 18%ด้าน "ทนง" หวั่นลงทุน 2 ล้านล้าน สร้างปัญหาช่องว่างทางสังคม กังขาบทบาท "กิตติรัตน์" ชี้ควรขวางโครงการใช้เงินไม่เหมาะสม ขณะที่ภาคเอกชนแนะจัดลำดับความสำคัญโครงการ ยันไม่จำเป็นกู้ 2 ล้านล้าน
• นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาลรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ภายในเดือน มิ.ย. คาดว่าจะสามารถเริ่มทยอยปรับราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคครัวเรือน เดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม (กก.) เป็นเวลา 12 เดือน เพื่อให้ราคาแอลพีจีที่ปัจจุบันอยู่ที่ กก.ละ 18.13 บาท ไปอยู่ที่ 24.82 บาท ตามเพดานที่กำหนดไว้
• แหล่งข่าวจากวงการรถยนต์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การแข่งขันในตลาดรถยนต์เริ่มกลับมาดุเดือดอีกครั้ง หลังจากไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดรถยนต์โดยรวมไม่เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทำให้ในขณะนี้ค่ายรถยนต์ต่างเริ่มเปิดศึกแคมเปญส่งเสริมการขายกันมากขึ้น โดยเฉพาะค่ายโตโยต้าที่ในขณะนี้อัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างมากกับรถยนต์นั่งทุกรุ่น ด้วยการคิดดอกเบี้ย 0% ซึ่งเป็นต้นทุนจัดโปรโมชั่นที่สูง จากการเข้าไปรับภาระดอกเบี้ยดังกล่าว
• หุ้นส่งออกอ่วมรับพิษบาทแข็ง 2 เดือนร่วงสวนตลาดรวม โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร ด้านผู้จัดการตลาดเชื่อทางการไม่คลอดมาตรการที่จะกระทบตลาดหุ้น ขณะที่แจงปัจจัยเงินบาทแข็งค่า ไม่ได้มีน้ำหนักต่อนักลงทุน เหตุผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาหุ้นสูงกว่า

*หุ้นเด่นวันนี้

• LIVE(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 1.20 บาท คาดผู้บริหารจะเปิดเผยแผนธุรกิจปี 2556 และโอกาสของการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ในงานประชุมผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (26 เม.ย.) เรามองว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อระดับราคาหุ้น นอกจากนี้ เราคาดผลประกอบการงวด 1Q56 ของ LIVE จะยังคงมีกำไรอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 22 ล้านบาท
• SIRI(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 5.85 บาท คาดหวังการดีดตัวขึ้นของราคาหุ้นในระยะต่อไป หลังจากที่ถูกปัจจัยกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการ LTV ของแบงก์ชาติ และการเข้ามาของหุ้นที่แปลงสภาพมาจาก SIRI-W1 (Exercise Price ที่ 1.114 บาท) ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงมาค่อนข้างลึก อย่างไรก็ดีมองว่ายังเร็วไปที่จะสรุปผลกระทบจากมาตรการที่ยังคงไม่มีความชัดเจนของแบงก์ชาติ และการแปลงสภาพ Warrant ที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ SIRI โดยที่เราประเมินกำไนสุทธิในปี 2556 ของ SIRI ไว้ที่ 3.87 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% YoY
• BGH(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 170 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q13 โตต่อเนื่อง +22% Q-Q แต่ -47% Y-Y เพราะ 1Q12 มีกำไรพิเศษจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนใน BH แต่กำไรปกติยัง +20% Y-Y ใน 2Q13 จะมีกำไรพิเศษจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนใน KDH ล่าสุดบริษัทเข้าไปลงทุนเปิดรพ.ในเยาวราช เน้นการรักษาระดับ secondary care ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีเพราะพื้นที่ดังกล่าวไม่มีรพ.ระดับกลาง-สูง จึงเติมเต็มช่องว่างได้ ถือเป็น upside ต่อประมาณการและราคาเป้าหมาย และยังมีโอกาสซื้อกิจการอื่นอีกในอนาคต
• MINT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 30 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q13 ทำ new high และเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี โดยคาด +19% Q-Q, +10% Y-Y จากทั้ง occupancy rate และ average room rate ที่ดีต่อเนื่อง บวกกับธุรกิจร้านอาหารในจีนพลิกกลับมาเป็นกำไร
• KGI(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เทคนิค แนวต้าน 3.58 บาท และ 3.70 บาท เชื่อหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์จะมี Momentum เชิงบวกในช่วงสั้น และน่าสนใจเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรจากแนวโน้มผลประกอบการ 1Q56 ที่คาดว่าจะออกมาดี จากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นถึง +105.6% yoy และ +71.7% qoq เป็น 64,258 ล้านบาท ใน 1Q56 จึงประเมินเบื้องต้น คาดว่ากำไรสุทธิ 1Q56 จะขยายตัวโดดเด่นมากทั้ง yoy และ qoq จาก 1Q55 ที่มีกำไรสุทธิ 105.5 ล้านบาท เป็น 200 — 250 ล้านบาท ใน 1Q56 และยังมี Valuation ที่ไม่สูงมากนัก