ทั้งนี้ รายได้ในงวดปี 55/56 จะมาจากศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค 2.8 พันล้านบาท
ส่วนงวดปี 56/57 สิ้นสุด มี.ค.57 รายได้และกำไรจะเติบโตต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายทางธุรกิจ
นายอนันต์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนพัฒนาที่ดินย่านศรีนครินทร์ 1.35 พันไร่ เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ระดับหรูขนาดใหญ่ราว 13,500 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 6 หมื่นล้านบาท โดยใช้เวลาในการพัฒนา 7-10 ปี หรือปีละ 1,500 ยูนิต โดยเฟสแรกคาดว่าจะเริ่มเปิดตัวในเดือน ต.ค.56 จำนวน 1,000-1,500 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6 พันล้านบาท
บริษัทยังมีแผนขยายศูนย์การประชุมและศูนย์แสดงสินค้าในอิมแพค เมืองทองธานี 3 แสนตารางเมตร โดยจะเป็นพื้นที่แสดงสินค้า 1 แสนตารางเมตร ใหญ่กว่าชาเลนเจอร์ฮอลล์ที่มีพื้นที่ 6 หมื่นตารางเมตร เพื่อรองรับลูกค้าที่มีความต้องการใช้พื้นที่มากขึ้น อย่างเช่น คาร์โชว์ คาดวาจะใช้เงินลงทุน 5-6 พันล้านบาท น่าจะได้เห็นการลงทุนภายในปีนี้และใช้เวลา 2 ปีเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) หากมีความชัดเจนในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งรัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะขยายเส้นทางเข้ามาภายในโครงการเมืองทองธานีหรือไม่
"เราจะทำให้อิมแพ็คเมืองทองธานีกลายเป็น exhibition convention และ banquet ที่ครบถ้วนที่สุดในระดับชั้นนำของโลก และเป็นที่หนึ่งในอาเซียน...ของพวกนี้เป็นกำไรระยะยาว สร้างรายได้ระยะยาว เราทำจนเลือดตากระเด็นจากเอเชียนเกมส์ถึง BOI 2000 ตอนนี้ถึง 2013 ก็น่าพึงพอใจแล้ว "นายอนันต์ กล่าว
พร้อมกันนั้น บริษัทยังมีแผนสร้างโรงแรมระดับ 3 ดาวในเมืองทองธานี ขนาด 1 พันห้อง ใช้เงินลงทุนราว 1 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นบัดเจ็ทโฮเทลแห่งที่ 2 ระดับราคาห้องพักหลักร้อยบาท
นายอนันต์ กล่าวว่า บริษัทยกเลิกแผนการนำ บมจ.อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ขยาย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเปลี่ยนมาเป็นการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REIT) โดยมีสินทรัพย์เป็นศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ขนาดกองทุนราว 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่ง BLAND จะถือหุ้น50% ส่วนอีก 50% จะเสนอขายหน่วยลงทุนต่อนักลงทุน คาดวาจะมีรายได้ 9 พันล้านบาท โดยเมื่อเร็ว ๆนี้บริษัทเซ็นสัญญากับธนาคารกสิกรไทย และ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เพื่อจัดตั้งกอง REIT
ดังนั้น ในงวดปีนี้บริษัทจะมีกระแสเงินสดราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมาจากรายได้กอง REIT ประมาณ 9 พันล้านบาท และรายได้จากผู้ถือหุ้นใชัสิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์) 1.3 หมื่นล้านบาท โดยกำหนดวันสุดท้ายในการใช้สิทธิ 2 พ.ค.56
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า BLAND ยังคงยึดนโยบายในการสร้างความมั่นคงและความแน่นอนเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าอย่าวราบรื่นและปลอดภัย โดยมาจากธุรกิจหลัก 2 ด้านในอสังหาริมทรัพย์ คือ รายได้ค่าเช่าและบริการ และการสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ซึ่งจะไม่เน้นกับการแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่น แต่จะเปิดเพียง 1-2 โครงการต่อปี ไม่เน้นจำนวน และกระจายพื้นที่
นายปิเตอร์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ BLAND ในงวดปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 4.3 พันล้านบาท ไม่รวมการขยายอิมแพ็ค แบ่งเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ดับเบิล เลค เฟส 2-3 มูลค่าโครงการรวม 1 พันล้านบาท ใช้เงินลงทุนราว 500 ล้านบาท โครงการทาวน์เฮ้าส์หรูย่านศรีนครินทร์ ใช้เงินลงทุน 3 พันล้านบาท และ"บีไฮฟ์"ช้อปปิ้งมอลล์แห่งแรกในเมืองทองธานี ลงทุนราว 800 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนนำที่ดินย่านมักกะสันเนื้อที่ขนาด 6-7 ไร่ พัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวครึ่ง ขนาด 600 ห้อง แต่ขอรอความชัดเจนในการปรับปรุงโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ก่อน