อิตัลไทยวิศวกรรม ลุยประมูลงานโซลาร์ฟาร์ม-พลังงานลม คาดปีนี้รายได้พุ่งแตะ 4 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 25, 2013 16:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสกล เหล่าสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด(ITE) หนึ่งในบริษัทผู้นำตลาดทางด้านวิศวกรรมภายใต้ “อิตัลไทย กรุ๊ป" เปิดเผยว่า
คาดว่าในปี 56 บริษัทจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดจากที่มีรายได้ 1,650 ล้านบาทในปี 55 และคาดว่าอีก 3 ปีข้างหน้าจะทำรายได้ถึง 4,500-5,000 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทกำลังประมูลงาน Solar Plant 2-3 แห่ง และพลังงานลมอีก 2-3 แห่ง กำลังผลิตรวมประมาณ 250-300 MW บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 26.2% หรือดิดเป็น 98.50 MW เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจก่อสร้างโซล่าร์ฟาร์มของประเทศไทย

ที่ผ่านมาถือได้ว่า ITE เป็นผู้นำตลาดในการให้บริการงานก่อสร้างแบบครบวงจร ทั้งพลังงานทดแทน รวมไปถึงงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้าและเครื่องกล อาทิ ธุรกิจพลังงานทดแทน (Renewable Energy) เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) โรงไฟฟ้าพลังงานลม (Wind Farm) รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังความร้อน (Thermal Power Plants) สถานีไฟฟ้าแรงสูง (High Voltage Power Substations) และงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคสำหรับโรงงานปิโตรเคมีและโรงงานขนาดใหญ่ รวมถึงงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลของอาคารสูง สุขาภิบาล หรือ ไฟฟ้า ประปา แอร์

บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของทีมงานวิศวกรรม โดยเฉพาะงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ที่มีความเข้มแข็ง ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมา อีกทั้งมีระบบการจัดการคุณภาพ ISO 9001:2008 ที่ได้รับการพัฒนามานาน ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่เข้มงวดตามกฎหมาย และตามความต้องการของลูกค้า ทั้งยังเน้นเรื่องการประสานงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อการส่งงานตรงตามคำมั่นสัญญา โดยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ให้บริการในแบบ One Stop Services เพื่อให้ระบบสาธารณูปโภคและระบบผลิตสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องเชื่อถือได้ (Reliability) มีความปลอดภัยได้มาตรฐานตามกฎหมาย (Safety) ลดความเสี่ยงต่ออุบัติภัย เพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency) และประหยัดพลังงาน (Energy Saving) ให้มากที่สุด

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในเอเชียขนาด 55 MWac Lopburi Solar ของ บริษัทพัฒนาพลังงาน (National Energy Development - NED) ที่จังหวัดลพบุรี และโรงไฟฟ้าพลังงานลมเทพพนา ขนาด 8 MWac (VSPP พลังงานลมโรงแรกของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ที่จังหวัดชัยภูมิ โดยสามารถก่อสร้างจ่ายไฟได้ก่อนกำหนดด้วยผลผลิตพลังงานไฟฟ้าที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามเป้าหมาย ทำให้ผู้ลงทุน แหล่งเงินทุน ผู้ผลิตอุปกรณ์หลักในงานก่อสร้างพลังงานทางเลือกเช่นแผง Solar และ Wind Turbine ให้ความไว้วางใจในฐานะ Local Contractor ที่สามารถนำการบริหารโครงการไปสู่ความสำเร็จ

นายสกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทมีผลงานที่การันตีคุณภาพของบริษัทได้เป็นอย่างดี อาทิ ผลงานออกแบบ จัดหา และก่อสร้างพลังงานทดแทน ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม โดยพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียขนาด 55 MWac ของบริษัท NED และงานแสงอาทิตย์แบบหมุนตามแสงอาทิตย์อีก 8 MWac งานพลังงานแสงอาทิตย์ในมือที่จะเสร็จและจ่ายไฟในปี 2556 จำนวน 98.5 MWac และพลังงานลม 8 MWac เทพพนาวินด์ฟาร์มอยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งถือว่าบริษัทมีผลงานและงานในมือโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนมากที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ และคาดว่าแนวโน้มของโซล่าร์ฟาร์มจะขยายตัวอย่างมากในอีก 1 - 2 ปีข้างหน้า โดยตลาดรวมมีมูลค่าประมาณ 120,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายการสนับสนุนธุรกิจพลังงานทางเลือกจากรัฐจากปัจจุบันปี 2556 ถึงปี 2564 หรือเฉลี่ยปีละประมาณ 13,600 ล้านบาทหรือเท่ากับประมาณ 170 MW ต่อปี

ปัจจุบัน อิตัลไทย ได้ดำเนินงานให้กับบริษัทใหญ่ อาทิ EGCO, SunEdison, Soleq, EGAT, PEA, MEA, Amari Group, PanAust, SCG Group, IRPC และ PTT Chemical โดยงานรับผิดชอบหลักนั้นจะขึ้นอยู่กับตลาดในแต่ละปี อย่างในปัจจุบันจะรับผิดชอบ งานก่อสร้างเบ็ดเสร็จ โรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก หรือพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม มีสัดส่วนประมาณ 40% ของรายได้รวม ทั้งยังมีความมุ่งมั่นที่จะขยายงานในตลาดการก่อสร้างสาธารณูปโภคและโรงงานในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและโรงกลั่น ทั้งยังมีการรับงานก่อสร้างเหมืองทองคำที่ประเทศลาว และกำลังขยายงานด้านพลังงาน และสายส่งไฟฟ้า แรงสูง ในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการเปิดตลาด AEC อีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ