นอกจากนี้ Morgan Stanly คาดบาทอ่อนถึง 29.5 เร็ว ๆ นี้ และมีโอกาสอ่อนเกิน 29.5 จากทางการออกมาตรการดูแลค่าเงินบาท และ 3Q13 เป็นต้นไป คาด Liquidity จาก QE เริ่มชะลอลง โดยคาดแรงขายหุ้นจาก นลท.ต่างชาติ ในช่วง 2Q13 จะจำกัด Upside หุ้นไทย พร้อมคงเป้าหมายปีนี้ที่ 1,640 จุด
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.ทรีนิตี้ มองว่าเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในการประชุมพิเศษบ่ายนี้ว่ามีการออกมาตราการหรือไม่ โดยมาตราการที่ออกมาสกัดการแข็งค่าเงินบาทนั้นเชื่อว่าจะส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้น ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีให้เข้าทยอยสะสมหุ้นที่มีพื้นฐานและผลประกอบการ 1Q56 แข็งแกร่ง
ส่วน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) หรือ MBKET เชื่อว่าแรงขายในตลาดหุ้นเริ่มจำกัดเพื่อรอดูมาตรการจากทางการในการแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ณ ปัจจุบันตลาดมีการคาดการณ์ถึงการจัดเก็บภาษีในตลาดตราสารหนี้ พร้อมกับการช่วยเหลือผู้ส่งออกที่เป็น SMEs ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของ MBKET ดังนั้น นักลงทุนต่างชาติน่าจะชะลอการขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยช่วงสั้นจากนี้ พร้อมทยอยปิด Short ใน Index Futures เพื่อรอดูมาตรการจากทางการ ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนหลังการประชุมนัดพิเศษในวันนี้
ทั้งนี้ จับตาการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติ หากเป็นการทยอยขายทำกำไรต่อเนื่อง ย่อมสะท้อนถึงโอกาสที่ทางการไทยจะออกมาตรการในตลาดตราสารหนี้มีมากขึ้น
คาดมาตรการจากทางการจะชัดเจนหลังการประชุมระหว่างรองนายกฯ กิตติรัตน์-ธปท.—สภาอุตฯ เพื่อหารือถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า และแนวทางการแก้ไขปัญหา ก่อนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ทีมเศรษฐกิจ — รองนายกฯ กิตติรัตน์ — ธปท. จะสรุปแนวทางเพื่อหาแนวทางป้องกันและสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาท รวมถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ส่งออกที่เป็น SMEs อย่างที่ตลาดประเมินไว้ ณ ปัจจุบัน
MBKET เชื่อว่าหากมาตรการชัดเจน กระแสเงินทุนต่างชาติจะมีทิศทางที่ชัดเจนเช่นกัน กล่าวคือ นักลงทุนกลุ่มนี้จะสามารถวางแผนการลงทุนได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตลาดทุนไทย เพราะหากประเมินที่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทย การเติบโตของกำไรสุทธิใน 1Q56 และภาพรวมทั้งปี ยังคงโดดเด่น เป็นตัวแปรสำคัญต่อการจัดสรรพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นไทย