ในระหว่างการโรดโชว์ บริษัทได้ตอบคำถามของนักลงทุนจากหลายจังหวัด ได้แก่ คุณภาพน้ำมันของบริษัทดีหรือไม่ เพราะบางสถานีบริหารมีสภาพเก่าและทรุดโทรม บางคนเกรงว่าจะถูกมองว่าเป็นปั๊มน้ำมันเถื่อน โดยบริษัทฯได้ชี้แจงว่าบริษัทได้ทำสัญญาซื้อน้ำมันจาก บมจ.ไทยออยล์(TOP)มานานกว่า 15 ปี รวมถึงการนำรถบรรทุกน้ำมันที่เป็นของบริษัทเอง จึงสามารถมั่นใจได้ว่าน้ำมันจากปั้ม PT ได้คุณภาพและมาตรฐานตามโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์
นายพิทักษ์ กล่าวว่า นอกเหนือจากนักลงทุนที่สนใจซื้อหุ้น IPO ของบริษัทแล้ว ยังมีผู้สนใจที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือปรับเปลี่ยนปั้มมาเป็นแบรนด์ PT มากยิ่งขึ้น จึงทำให้เชื่อมั่นว่าหลังจากที่บริษัทฯได้มีการเสนอขายหุ้น IPO แล้วจะทำให้มีประชาชนที่รับรู้ถึงแบรนด์ PT มากขึ้นด้วย คาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายเติบโตตามการรับรู้แบรนด์ และการนำเงินจากการ IPO มาเพื่อขยายและปรับปรุงปั้มน้ำมัน PT
ส่วนการเลื่อนแผนเสนอขายหุ้น IPO จากปี 55 มาเป็นปี 56 เนื่องจากอยากจะให้นักลงทุนมั่นใจว่าบริษัทสามารถเติบโตได้จริง ซึ่งบริษัทก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากที่บริษัทมีรายได้ในปี 52 ที่ 9.67 พันล้านบาท ปี 53 ที่ 1.56 หมื่นล้านบาท ปี 54 ที่ 2.78 หมื่นล้านบาท และปี 55 ที่ 4.17 หมื่นล้านบาท จึงแสดงให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าบริษัทจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง