SSI คาดเริ่มเห็นกำไรตั้งแต่ Q3/56 หลังโรงถลุงเหล็กในอังกฤษคุ้มทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 29, 2013 17:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) คาดว่าในปี 2556 บริษัทฯจะสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ในไตรมาส 3/56 เนื่องจากโรงถลุงเหล็ก SSI UK ในประเทศอังกฤษจะถึงจุดคุ้มทุน และจะมีการติดตั้ง PCI ภายในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้ 7-8% ทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 90% จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 80% ของกำลังผลิตทั้งหมด

ประกอบกับโรงงานผลิตแผ่นเหล็กรีดร้อนในประเทศไทยสามารถทำกำไรได้แล้วตั้งแต่ไตรมาส 1/56 โดยมียอดขายและยอดการผลิตสูงสุด และราคาแร่เหล็กปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะลดลง 10% ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 134 ดอลลาร์ฯ/ตัน และปีนี้คาดว่าจะลดลงเหลือ 120 ดอลลาร์ฯ/ตัน ขณะที่ราคาแผ่นเหล็กแปรรูปมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี โดยม.ค.อยู่ที่ 21,000 บาท/ตัน ปัจจุบันขึ้นไปอยู่ที่ 23,000 บาท/ตัน แต่ภาพรวมทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 22,000 บาท/ตัน

"ปี 56 มี trend ดีอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนโตขึ้นมากทำให้จีนซื้อแร่เหล็กเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้แร่เหล็กในตลาดโลกขาดและมีราคาสูงขึ้น ทำให้คนถลุงเหล็กถูกกดดันในด้านต้นทุนวัตถุดิบ ขณะที่แผ่นเหล็กราคาไม่ขยับขึ้นเลย ทำให้ทุกคนมีมาร์จินลดลง โดยในปี 56 จีนมีการเติบโตที่ไม่สูงมากหรือเริ่มเบาบางลง ทำให้การนำเข้าแร่เหล็กในจีนไม่ค่อยเติบโต ในขณะที่ราคาแร่เหล็กที่สูงในหลายปีที่ผ่านมาได้ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนให้เข้าไปทำเหมืองแร่หลายราย

แต่มาในปีนี้เริ่มมีปริมาณแร่เหล็กในตลาดโลกมากขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้ของจีนลดลง ทำให้มาร์จินของโรงถลุงเหล็กเริ่มดีขึ้น หลายปีที่ผ่านมาเป็นปีของเหมืองแร่ แต่ปีนี้เป็นปีของโรงถลุง นอกจากนี้นักวิเคราะห์ฯมองว่าราคาแร่เหล็กในปีนี้จะลดลง เนื่องจากปริมาณออกมามาก และจีนมีการใช้น้อย ทำให้ต้นทุนในการผลิตเหล็กลดลง และมีมาร์จินดีขึ้น"นายวิน กล่าว

กรรมการผู้จัดการใหญ่ SSI กล่าวว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/56 คาดว่ายังไม่กำไร แต่จะขาดทุนน้อยกว่าไตรมาส 4/55 เนื่องมาจากโรงงานผลิตเหล็กที่ไทยสามารถทำกำไรได้ แต่โรงถลุงที่อังกฤษยังขาดทุนอยู่ จากกำลังการผลิตที่ยังไม่มาก ส่วนไตรมาส 2/56 คาดว่าจะดีไม่เท่ากับไตรมาส 1/56 เนื่องจากมีวันหยุดมาก โรงงานผลิตเหล็กของบริษัทปิดทำการ 2 สัปดาห์ รายได้ที่เข้ามาจึงอาจจะไม่เท่าไตรมาส 1/56 และคาดว่าไตรมาส 2/56 จะยังไม่เห็นผลกำไรด้วย

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ทั้งปีเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 6.06 หมื่นล้านบาท และ EBIDA ในปีนี้จะเป็นบวก

ในส่วนของแผนการลงทุนบริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาการทำโรงไฟฟ้าในโรงถลุงเหล็กที่ประเทศอังกฤษ โดยโรงไฟฟ้าที่จะนำมาพัฒนาเป็นโรงไฟฟ้าเก่าที่อยู่ในโรงถลุงเหล็ก ปัจจุบันสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 80 เมกกะวัตต์ ซึ่งสามารถผลิตได้เต็มกำลัง 200 เมกกะวัตต์ ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าในปลายปีนี้จะเริ่มพัฒนาโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก และได้รับผลตอบแทนกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ กำลังการผลิตส่วนเกินจากโรงไฟฟ้าจะนำไปขายให้แก่ผู้ประกอบการในอังกฤษ เนื่องจากประเทศอังกฤษมีแนวโน้มที่ไฟฟ้าเริ่มมีการขาดแคลน และค่าไฟมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมรายได้ให้กับริษัทอีกทาง

นายวิน กล่าวต่อว่า บริษัทมีแผนจะลดสัดส่วนการถือหุ้นในโรงถลุงเหล็กที่อังกฤษ จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 100% ซึ่งเบื้องต้นก็มีพันธมิตรเข้ามาเจรจาขอซื้อหุ้นแล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทฯมีความต้องการพันธมิตรที่จะมาเป็น Supplier ให้บริษัทในการทำธุรกิจเหล็ก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ