ทั้งนี้ บมจ. ช.การช่าง (CK) จะไม่ขายหุ้น CKP ออกมา แต่จะมาจาก บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) บมจ. น้ำประปาไทย (TTW) และ บริษัท ที่ดินบางปะอินจำกัด ทั้งนี้ ปัจจุบัน CK ถืออยู่ 38% หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์สัดส่วนการถือหุ้นจะลดลงเหลือราว 32% ตามการเพิ่มทุนของ ซีเค พาวเวอร์ ที่ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 5,500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท
นางสาวสุภามาส กล่าวว่า บริษัทมีโครงการเพิ่มอีก 3 โครงการในอนาคต ได้แก่ โครงการบางปะอิน โคเจนเนอร์เรชั่น เฟส 2 กำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์ คาดแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย.60 ,โครงการน้ำบากในลาว กำลังผลิต 1,060 เมกะวัตต์ คาดทั้งสองโครงการจะเริ่มสร้างในปลายปีนี้ ยังมีโครงการไซยะบุรี ที่ CK กำลังก่อสร้างอยู่ มีขนาดกำลังผลิต 2,185 เมกะวัตต์คาดเสร็จในปี 62
"ซีเค พาวเวอร์ เป็นบริษัทโฮลดิ้งด้านพลังงานของกลุ่มช.การช่างเพื่อลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ ...CKP เป็นเรือธงด้านพลังงานของกลุ่ม มีศักยภาพในการเติบโตด้วยรายได้ที่มั่นคง"นางสาวสุภามาส กล่าว