ทั้งนี้ นายประพล จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทและมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เพื่อซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ และการจำหน่ายไปซึ่งสิทธิของการเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ ธุรกิจตราสารหนี้ และธุรกิจการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวม โดยบริษัทฯจะทำการโอนสิทธิการเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้แก่ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน
เนื่องจาก ธุรกรรมมีขนาดร้อยละ 0.20 เมื่อคำนวณตามหลักเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนที่ชำระให้หรือได้รับ เปรียบเทียบกับกำไรสุทธิของบริษัท ดังนั้นบริษัทจึงไม่จำต้องเปิดเผยรายการต่อตลาดหลักทรัพย์ตามประกาศเกี่ยวกับการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน
นอกจากนี้ บริษัทได้รับแจ้งจากนายประพล ตามที่ระบุในหนังสือเกี่ยวกับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ลงวันที่ 30 เม.ย.56 โดยรายละเอียดของแผนการดำเนินธุรกิจ สรุปได้ดังนี้ คือ 1. จะดำเนินการเตรียมยื่นเอกสารขั้นตอนเพื่อกลับเข้าดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ใหม่ตามใบอนุญาตทั้ง 5 ใบที่บริษัทฯมีอยู่เดิมในช่วงตกแต่งสถานประกอบการแห่งใหม่ให้เสร็จภายใน 2 เดือน เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)อนุมัติคู่มือ
2. บริษัทฯ จะดำเนินการรับสมัครทีมผู้บริหารและพนักงานทุกระดับที่มีประสบการณ์สูงในธุรกิจนี้เข้ามาให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดดำเนินการที่คาดว่าจะภายในเดือนที่ 4
3. ทีมผู้บริหารจะให้ความสำคัญทั้งธุรกิจค้าหลักทรัพย์ ตัวแทนนายหน้า และธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน ควบคู่กันไป
4. บริษัทฯ จะเจาะตลาดที่เป็นลูกค้ารายกลางและรายใหญ่ในช่วงแรก และจะขยายสาขาไปตามจุดต่างๆที่มีศักยภาพไม่ว่า กทม หรือ ต่างจังหวัด โดยทีมงานในพื้นที่ที่เข้าถึงลูกค้าในเขตนั้น ๆ ภายในระยะเวลา 1 ปี
5. บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และข้อมูลการลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้ารวมถึงนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯที่จะมาใช้บริการของบริษัทฯในอนาคต ด้วยการจัดสัมมนากลุ่มย่อยเป็นระยะ ๆ โดยทีมงานวิจัยที่มีคุณภาพควบคู่ไปกับทีมบริการของเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาการลงทุน (Investment advisor)
6. บริษัทฯ จะพัฒนาธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน (Investment banking) และธุรกิจรับประกันการจำหน่าย (Underwriting) ภายในสิ้นปี 2013 นี้เพื่อรองรับธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินที่กำลังขยายตัวอย่างมากในปัจจุบันโดยจะรับทีมงานที่มีความสามารถและประสบการณ์สูง มารองรับธุรกรรมนี้ซึ่งสามารถสร้างรายได้อย่างมากในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะการนำบริษัทเข้าจดทะเบียน (IPO) และ การควบรวมกิจการ (M&A) เป็นต้น
7. บริษัทฯ ยังมีแผนการในการยื่นขอใบอนุญาตทำ ที่ปรึกษาการลงทุนแบบ Private Fund และศึกษาช่องทางการออกไปดำเนินธุรกิจในตลาดต่างประเทศ ในประเทศใกล้เคียง อีกทั้งมองหาพันธมิตรทางธุรกิจจากต่างประเทศควบคู่กันไปเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าการลงทุนในระยะยาวและต่อยอดธุรกิจในอนาคต
8. บริษัทฯ จะไม่หยุดที่จะพัฒนาธุรกิจการให้บริการตัวแทนนายหน้าค้าหลักทรัพย์ทั้งตลาดตราสารทุน (Equity)และตลาดตราสารอนุพันธ์ (Derivative) โดยการพัฒนาบริการต่างๆให้ทันสมัยและสะดวกรวดเร็ว และพร้อมจะลงทุนในระบบเทคโนโลยี่ใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าว่า "ทำไมต้องเลือกใช้บริการของเราเท่านั้น"
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนการโอนธุรกิจตราสารหนี้ และธุรกิจการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวม และการโอนสิทธฺการเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้แก่ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน โดยบริษัทประมาณการว่าจะมีรายได้จากการลงทุนในหลักทรัพย์และรายได้อื่นตามที่ได้ชี้แจงข้างต้นและหลังจากนั้น บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์และนายหน้าค้าหลักทรัพย์ตั้งแต่เดือน ส.ค.56 เป็นต้นไป