นอกจากนั้น ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น ITD ในวันนี้ได้มีการซักถามถึงความคืบหน้าของการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายในพม่า ซึ่งผู้บริหารยืนยันว่าการที่รัฐบาลได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการ ไม่ใช่การฮุบโครงการ แต่เป็นการช่วยเหลือเพื่อให้โครงการนี้สามารถเดินหน้าได้อย่างมั่นคง
นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการบริหาร ITD เปิดเผยว่าในปี 56 บริษัทประมาณการจะได้งานใหม่ราว 3 แสนล้านบาท โดยช่วงต้นปี 56 ที่บริษัทได้เซ็นงานไปแล้ว 34,574 ล้านบาท สูงจากปีก่อที่มีงานใหม่และเซ็นสัญญาแล้วจำนวน 53,283 ล้านบาท เพราะมีหลายโครงการล่าช้า ได้แก่รถไฟฟ้าสายสีแดง โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ(backlog)แล้ว 2.4 แสนล้านบาท
"เราประเมินน่าจะเซ็นสัญญาได้ประมาณ 3 แสนล้านบาท รายได้ปี 56 ก็คิดว่า จากงานที่เซ็นที่ทำอยู่ผลงานจะเพิ่มขึ้น มากพอสมควร และจะมากที่สุดที่เคยทำ"นายเปรมชัย กล่าว
นายเปรมชัย คาดว่าในปีนี้บริษัทจะมีกำไรดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท แต่ยังไม่พอล้างขาดทุนสะสม อย่างไรก็ดี คาดว่าในปี 57 จะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 435 ล้านบาทได้ทั้งหมด และน่าจะกลับมาจ่ายเงินปันผลได้
"ปีที่แล้วเราคิดว่าจะมีรายได้มากกว่านี้ แต่งาน delay ทำให้รายได้น้อยกว่าที่คิด งานส่วนใหญ่ตกอยู่ในปีนี้ จากงานในมือปีนี้รู้ว่ามีกำไร รู้ว่ามีกำไรมากขึ้น...ผลประกอบการในปีนี้มากขึ้น ส่วนปี 57 จะทะยานขึ้นไปมาก ถ้าเราสามารถ maintain ก็จะมีกำไรทวีคูณ และก็สามารถจ่ายปันผลได้มากขึ้นๆ"นายเปรมชัยกล่าว
นายเปรมชัย กล่าวว่า งานใหม่ในประเทศปีนี้ส่วนใหญ่จะมาจากภาครัฐและเป็นงานขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการก่อสร้างปรับปรรุงระบบคมนาคมในประเทศ มูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท โครงการป้องกันน้ำท่วมและโครงการแก้ภัยแล้ง มูลค่า 1.1 ล้านล้านบาท โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน 3.5 แสนล้านบาท โครงการก่อสร้างขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 73,700 ล้านบาท โครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมและอาคารสูงของเอกชน 30,000 ล้านบาท งานจัดหาซ่อมหัวจักรและจัดหาตู้โดยสารรถไฟ 14,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในอีก 2 เดือนข้างหน้างานวางรางรถไฟจะมีออกมา 20 งาน มูลค่า 1 แสนกว่าล้านบาท โดยคาดว่า ITD จะมีโอกาสได้รับงานกว่า 90% เพราะเป็นงานที่เราถนัด ขณะที่งานบริหารจัดการน้ำ บริษัทเตรียมยื่นประมูลในวันที่ 3 พ.ค.นี้ ซึ่งบริษัทมีโอกาสได้งานและจะเป็นงานที่มีกำไร รวมทั้งมีคู่แข่งน้อยจาก เพราะผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ 6 ราย ตอนนี้เหลือ 5 รายแล้ว หลังจากล่าสุดกิจการร่วมค้าไทย-ญี่ปุ่นถอนตัวไป
สำหรับโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายในพม่า นายเปรมชัย ได้ชี้แจงต่อผู้ถือหุ้นในที่ประชุมว่า รัฐบาลไม่ได้เข้าฮุบโครงการ แต่บริษัทไปขอให้รัฐบาลช่วย แม้ว่าบริษัทได้สัญญาสัมปทานกับรัฐบาลพม่า แต่การเข้ามาของรัฐบาลช่วยลดความเสี่ยงโครงการ เพราะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และคาดหวังได้เงินกู้ soft loan ซึ่งขณะนี้รัฐบาลพม่าและรัฐบาลไทยได้มีการหารือจนได้ข้อสรุปในการจัดตั้ง SPV โดยจะมีรัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่าเป็นผู้ร่วมทุนโดยไม่ต้องออกทุน และให้สิทธิ ITD ยังเป็นผู้พัฒนาโครงการเหมือนเดิมต่อไป
ขณะที่ ITD จะลงทุนผ่าน SPC ที่มีกิจกรรมธุรกิจ 8 ประเภท คือ ท่าเรือ ถนน รถไฟ(rail link), โรงไฟฟ้าฐ จัดการน้ำ, สื่อสาร, นิคมอุตสาหกรรม และเมือง(Township) ซึ่งได้จัดตั้งเป็นบริษัทแล้วและยังให้สิทธิบริษัทหาผู้ร่วมทุน เพราะแต่ละโครงการมีขนาดใหญ่มาก โดยบริษัทได้กระจายเงินทุนที่ลงทุนไปแล้ว 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้บริษัทได้สัญญาที่ทำใหม่ดีขึ้นกว่าเดิมที่บริษัทได้สัมปทานพื้นที่ในทวาย 1.2 แสนไร่
ขณะนี้โครงการทวายเริ่มมีความคืบหน้า โดยมีการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ในส่วนนิคม Early Industrial Estate คาดว่าจะเริ่มได้เร็วกว่ากำหนดในปี 59 มาเป็นปี 57 ส่วนโรงไฟฟ้าในเบื้องต้นได้ติดต่อกับ Shell ในการจัดหาก๊าซ LNG จัดส่งไปยังโรงไฟฟ้าแล้ว และขณะนี้บริษัทได้หาผู้ร่วมทุนใน SPC ทั้ง 8 บริษัทแล้ว และได้นำรายชื่อผู้ร่วมทุนเสนอกับรัฐบาล หากได้รับความเห็นชอบก็จะเริ่มดำเนินการได้หลังจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่าร่วมลงนามจัดคั้ง SPC ในปลายเดือน พ.ค.นี้. ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ได้เจรจา 2 ราย เข้าร่วม SPV โดยได้ชักชวนญี่ปุ่นและอีกหนึ่งประเทศ
ทั้งนี้ ITD เข้าถือหุ้น SPC ในกิจการท่าเรือน้ำลึกทวาย และถนนแห่งละ 25% ส่วนกิจการด้านอื่น ITD เข้าถือหุ้นมากกว่า 30% เพราะเห็นแนวโน้มธุรกิจไปได้ดี
"ไม่ใช่รัฐบาลฮุบ เราไปขอให้รัฐบาลช่วย ก็ไม่นึกว่ารัฐบาลเข้าใจและเห็นความจำเป็น เข้ามาช่วยเรา ทวายเป็นโครงการระดับชาติ รัฐบาลช่วยให้โครงการมีความมั่นคง...เรามีความรู้สึกที่ดีกับรัฐบาลนี้ "นายเปรมชัย กล่าว
อนึ่ง การประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ITD วันนี้อนุมัติขยายระยะเวลาการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท แบบมอบอำนาจทั่วไป จำนวนไม่เกิน 1,677 .4 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ออกไปอีก 1 ปีหรือถึงปี 57 โดยจะจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 1,258.1 ล้านหุ้นและอีกจำนวน 419.36 ล้านหุ้นเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด
นายเปรมชัย คาดว่า บริษัทจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในช่วงครึ่งหลังปี 56 แต่ก็ต้องดูช่วงจังหวะเวลา โดยเงินที่ระดมทุนได้จะนำไปลดภาระหนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและเตรียมเงินลงทุนในโครงการต่างๆ และ งานที่จะร่วมเข้าประมูล ขณะเดียวกัน บริษัทได้เจรจาขายหุ้นในโครงการเหมืองแร่โปแตช ในสัดส่วน50% ให้กับต่างชาติ คาดได้ข้อสรุปใน พ.ค.นี้