ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.19 น.ตามเวลานิวยอร์ก ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 69 จุด แตะที่ 14,769 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6 จุด หรือ 0.4% แตะที่ 1,589 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 17 จุด หรือ 0.5% แตะที่ระดบ 3,315 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นหลังจากอีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 0.50% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีแถลงต่อผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า การที่อีซีบีตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในวันนี้เนื่องจากอีซีบีเล็งเห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ต่ำ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยในระยะกลาง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 เม.ย. ปรับตัวลง 18,000 ราย สู่ระดับ 324,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 345,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มนายจ้างในสหรัฐยังคงมีการจ้างงานแม้ว่าเศรษฐกิจส่งสัญญาณการชะลอตัวก็ตาม
ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง แต่การเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายของจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัว โดยก่อนหน้านี้ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่ม 119,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ในวันศุกร์นี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.6%
หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ ดีดตัวขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า รายได้ต่อหุ้นในไตรมาสแรกอยู่ที่ 67 เซนต์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดว่าจะอยู่ที่ 54 เซนต์
หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 3% และหุ้น CBS ทะยานขึ้น 22% หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด