ตลาดหุ้นบ้านเราวันนี้มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าต่างชาติขายสุทธิวานนี้ 150 ล้านบาท แต่ในส่วน NVDR กลับซื้อ 3.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งสะท้อนการเก็งกำไรระยะสั้นของต่างชาติที่ยังคงมีอยู่ ขณะที่ภาค Real Sector และภาคบริการต่างๆ ของไทยยังดีเชื่อว่าจะเป็นตัวกระตุ้น ให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามาอีก
วันนี้ คาดว่า ตลาดมีโอกาสทำนิวไฮอีกในรอบ 19 ปี ประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,612 จุด และสัปดาห์หน้ามองว่าจะไปถึง 1,647 จุด ตลาดหุ้นค่อนข้างสดใส ส่วนแนวรับวันนี้ให้ไว้ที่ 1,578 จุด
- ตลาดหุ้นนิวยอร์เมื่อวานนี้ (2 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,831.58 จุด เพิ่มขึ้น 130.63 จุด(+0.89%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,597.59 จุด เพิ่มขึ้น 14.89 จุด(+0.94%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,340.62 จุด เพิ่มขึ้น 41.49 จุด(+1.26%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 143.54 จุด ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 29.00 จุด ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.67 จุด ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.93 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 3.51 จุด ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 96.80 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.92 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 12.10 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) อยู่ที่ 1,589.19 จุด ลดลง 8.67 จุด(-0.54%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 151.86 ล้านบาท เมื่อ 2 พ.ค.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(2 พ.ค.)ที่ 91.43 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.40 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(2 พ.ค.)ที่ 5.3 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 29.52/54 อ่อนค่าตามภูมิภาค จับตาเงินไหลเข้า-ออก
- "วีรพงษ์-กิตติรัตน์"ถล่มแบงก์ชาติ-กนง.ไร้"ฝีมือ-มาตรการ"แก้บาทแข็ง ด้าน "วีรพงษ์" เสนอให้นายกฯไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้ง ชี้ช่องครม.ปลด ขณะ "กรณ์" ระบุปลดไม่ได้หากไม่มีความผิด ปลัดคลังยันเหนือ 29 บาทต่อดอลลาร์ ไม่จำเป็นต้องออกมาตรการดูแล
- "ศาลปกครอง" ยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราวโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน "ธงทอง" เผยเดินหน้าประมูลวันนี้ "ปลอดประสพ" นำทีมกฎหมายแจงศาลลั่นพวกยื่นฟ้องเป็นผู้ทำร้ายชาติ-ประชาชนปูดนักวิชาการลาออกจากกบอ.เพราะถูกข่มขู่
- อนุฯชงราคาตั้งต้นใหม่ ประมูล "ทีวีดิจิทัล" ธุรกิจ 24 ช่อง "ลดราคา" ทุกประเภท ช่องเอชดี 1-1.5 พันล้าน วาไรตี้และข่าวเอสดี 200-400 ล้านบาท ช่องเด็ก 100-200 ล้านบาท ชี้ปัจจัยเสี่ยงประกาศฯมัสต์แคร์รี่ ดันต้นทุนโครงข่ายพุ่ง คาดราคาประเมิน มูลค่าคลื่นฯ ลดจาก 2 หมื่นล้านบาท เหลือ 1.5 หมื่นล้านบาท เสนอบอร์ดกสท.พิจารณาอังคาร 7 พ.ค.นี้
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยเดือน เม.ย.อยู่ที่ 83.7 ลดลงจากเดือน มี.ค. ที่ระดับ 84.8 ถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- ทีดีอาร์ไอ ตอบโต้ข้อมูล นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายนายกรัฐมนตรี ที่ได้เผยแพร่ข้อมูลว่า รถไฟความเร็วสูงไม่ใช่ภาระหนี้สิน แต่คือโอกาสใหม่ของการสร้างรายได้ โดยระบุว่า การจะลงทุนในโครงการนี้หรือไม่อยู่ที่ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสของการศึกษาความเป็นไปได้
- แบงก์ชาติเปิดผลสำรวจแนวโน้มปล่อย สินเชื่อ พบไตรมาส 2 สินเชื่อภาคธุรกิจส่อเร่งขึ้น จากอุปสงค์ในประเทศขยายตัว ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เริ่มเข้มงวดให้กู้ ปรับเพิ่มมาร์จิ้นลูกค้าทุกกลุ่ม ชี้สินเชื่อครัวเรือนยังโตต่อเนื่อง เผยแบงก์เริ่มห่วงภาวะฟองสบู่ เพิ่มความเข้มงวดปล่อยกู้อสังหาฯ พร้อมจับตาสินเชื่อครัวเรือนภาคอื่นๆ ใกล้ชิด
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPN (เมย์แบงก์กิมเอ็ง) แนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 115.00 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q56 เติบโต 15% YoY จากค่าเช่าเพิ่มขึ้นและเปิดโครงการใหม่ ผลประกอบการจะขยายตัวต่อเนื่องใน 2Q56 และ สูงสุดของปีในช่วง 3Q56 จากการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ CPN มีศักยภาพเติบโตยั่งยืนจากการปรับขึ้นค่าเช่า และ การเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น อุบลฯ เชียงใหม่ หาดใหญ่ เปิดปีนี้ สมุย ศาลายา เปิดปี 2557 และ Central Westgate บางใหญ่ เปิดปี 2558 เราคงคำแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย (DCF) เท่ากับ 115 บาท (หลังแตกพาร์ราคาเป้าหมาย 57.50 บาท)
- SAT (เมย์แบงก์กิมเอ็ง) แนะ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 32.00 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/56 จะดีขึ้น 233 ล้านบาท (+23%qoq, +13%yoy) แต่ไม่โดดเด่นเพียงพอ จากไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ตามยอดขาย ปรับประมาณการลง สะท้อนค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน และ ต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น แต่เราประเมินผลประกอบการปี 2556 จะยังทำสถิติสูงสุดใหม่ คือ ยอดขายเท่ากับ 10,450 ล้านบาท เติบโต 11% และ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 971 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 2.29 บาท) เติบโต 19% จากโรงหล่อเหล็ก ICP 2 ผลิตเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นเป็น 18% จาก 15.89% ในปีก่อน ระยะสั้น ราคาหุ้นมีแนวโน้มจะถูกกดดันจากกำไรไม่โดดเด่นเพียงพอ และ การปรับลดประมาณการกำไรลงของนักวิเคราะห์ แต่เราคงคำแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มระยะยาวยังเติบโตต่อเนื่องตามอุตสาหกรรมรถยนต์