KBANK ผนึก เมืองไทยประกันชีวิต รุกตลาด-ขายสินค้าร่วม มั่นใจผลงานตามเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 3, 2013 10:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา ล่ำซำ รองประธานกรรมการและประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า กลยุทธการทำงานของธนาคารจะทำงานร่วมกับ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตมากขึ้น โดยยึดลูกค้าเป็นหลักเพื่อให้สอดคล้องกับความพึงพอใจของลูกค้า โดยคาดหวังให้ลูกค้าธนาคารในทุกกลุ่ม 45% จะมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตหรือประกันภัยของเมืองไทยประกันชีวิต โดยปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงของธนาคารจะมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมากกว่ากลุ่มลูกค้าทั่วไปของธนาคาร เนื่องจากคนที่มีรายได้มากจะมีกำลังซื้อมากกว่าคนที่มีรายได้น้อย นอกจากนี้ยังคาดหวังให้ลูกค้าของเมืองไทยประกันชีวิตสัดส่วน 50-60% ของลูกค้าทั้งหมด 1.5 ล้านราย ที่ยังไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคารหันมาเป็นลูกค้าของธนาคารภายใน 2 ปี

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ KBANK กล่าวว่า การทำงานของ 2 องค์กรจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและเป็นระบบ ส่งผลให้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน และจะสะท้อนได้จากผลการดำเนินงานที่ออกมาดีตามเป้าหมาย และจากการวางกลยุทธการทำงาน จากนี้ไป 1 ปี มั่นใจว่าจะสามารถทำงานได้ตามเป้าหมาย โดยสินเชื่อของธนาคารในปี 56 จะเติบโต 9-11% จากปีก่อน โดยแบ่งเป็น สินเชื่อธุรกิจรายใหญ่เติบโต 4-6% เอสเอ็มอีเติบโต 10-12%และสินเชื่อรายย่อยg9b[โต 12-13% รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 13-15% และรักษาระดับ NIM ที่ 3.4-3.6% และคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 2.4%

นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย กรรมการและประธานการบริหารความเสี่ยงองค์การ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารยังไม่มีแผนในการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของเมืองไทยประกันชีวิต เนื่องจากธนาคารและเมืองไทยประกันชีวิตมีการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น และเมืองไทยประกันชีวิตมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตสูง มีเงินทุนที่แข็งแกร่ง เป็นเรื่องยากในการที่จะมีผู้ถือหุ้นเสนอขายหุ้นให้กับธนาคาร

"ธนาคารถือหุ้นเมืองไทยโฮลดิ้งอยู่ 51% และเมืองไทยโฮลดิ้งถือหุ้นอยู่ในเมืองไทยประกันชีวิต 75% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ธนาคารมองว่ามีความเหมาะสมในตอนนี้ ... ปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นต้องถือหุ้นเพิ่ม ซึ่งการถือหุ้นเพิ่มเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากเมืองไทยประกันชีวิตมีศักภาพการเติบโตที่ดี มีแนวโน้มไปได้ดีอีกไกล โดยเติบโตปีละ 2 digit และค่า RBC ratio ก็มากกว่าเกณฑ์ที่คปภ.กำนหนด ยากมากที่ธนาคารจะเข้าไปถือหุ้นเพิ่ม เพราะไม่มีใครอยากเสนอขายหุ้นออกมา" นายสมเกียรติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธนาคารยังไม่มีแผนนำ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต เข้ากระจายหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในระยะเวลาอันใกล้ แต่ไม่ได้ปิดกั้น หากอนาคตจะมีโอกาสนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ KBANK กล่าวว่า ธนาคารมีความต้องการในการเป็นธนาคารหลัก (Main Bank) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยธนาคารได้มีการวางแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการจับเคลื่อนองค์กรทั้งหมด โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนธนาคารได้มีการเน้นเข้าไปรียมกับพันธมิตรมากขึ้น มีการร่วมกับพันธมิตรสนับสนุนการให้บริการจากลูกค้าของธนาคารที่เข้าไปลงทุนในต่างประเทศและลูกค้าของพันธมิตรที่เข้ามาลงทุนในประเทศ โดยธนาคารมีการปรับปรุงบริการต่างๆที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและปรับปรุงบริการให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีที่ธนาคารได้มีการปรับปรุงและพัฒนาให้มีการตอบสนองการบริการได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจง่าย ประกอบกับการเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้นเพื่อนำมาบริหารและบริการลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถติดต่อประสานงานกับลูกค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยการปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการของธนาคารให้มีความสะดวกรวดเร็วและเข้าใจง่าย พัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าของธนาคารและพันธมิตรสามารถใช้บริการได้อย่างรวดเร็ว และทางธนาคารก็สามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าและติดต่อประสานงานกับลูกค้าได้อย่างสะดวก

สำหรับในประเทศไทยการเติบโตต่างจังหวัดมีความรวดเร็วมากขึ้น มีการพัฒนาแบบก้วกระโดด จะเห็นได้จาก GDP ในต่างจังหวัดเติบโตขึ้นมามาก ธนาคารได้เข้าไปขยายสาขาในต่างจังหวัดแล้วหลายจังหวัด โดยจะเห็นได้จากการเติบโตของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ใน่างจังหวัดมีการเติบโตมากขึ้น"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ