ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 0.21 จุด ตลาดผันผวนจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น คาดบ่ายแกว่งแคบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 3, 2013 13:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,588.98 จุด ลดลง 0.21 จุด(-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 21,229.34 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกสลับแดนลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,598.93 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,584.53 จุด

นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีเปิดบวกขึ้นมาในช่วงแรกและในช่วงหลังดัชนีปรับตัวลงมาในแดนลบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาหนุนตลาด ส่วนเรื่องของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้นได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ จึงไม่ได้เป็นเรื่องที่ใหม่และไม่ได้มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก

จากการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมานั้นมีผลมาจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น เนื่องจากตลาดมีการปรับตัวขึ้นมา 2-3 สัปดาห์ติดกัน และมีประเด็นในประเทศที่ยังคงกดดันตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ อย่างเช่น แนวโน้มการออกมาตรการดูแลค่าเงินบาท และกระแสข่าวการปลดผู้ว่าฯธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังมีความผันผวน เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนออกมา

ส่วนตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีเป็นบวกเล็กน้อย และเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด แต่มีตลาดหุ้นบางแห่งย้อนกลับเป็นลบ เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแน่นอน ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องใหม่และไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียให้บวกแรงมากนัก

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าตลาดยังคงมีการพักฐานและมีแรงขายทำกำไรในระยะสั้นเกิดขึ้น จากการที่ไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนตลาด อย่างไรก็ตามตลาดยังมีความคาดหวังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนนี้

พร้อมให้แนวต้าน 1,592-1,596 จุด แนวรับ 1,576-1,580 จุด

ด้านนายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นช่วงเช้าผันผวน จากเปิดตลาดบวกตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และ รับผลดีจากศาลปกครองมีคำสั่งไม่ระงับการประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท แต่เปิดช่องให้ดำเนินการให้ถูกต้องโดยเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน

อย่างไรก็ดี ความไม่มีเอกภาพในการแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทกดดันตลาด หลังจากวานนี้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และ นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ ซึ่งมองว่าเป็นการบีบให้ผู้ว่าธปท. ให้ลาออกเอง

นอกจากนี้ช่วงเช้าวันนี้ ค่าเงินบาทอ่อนค่านำไปแล้ว เพราะตลาดเชื่อว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในรอบหน้า (ในวันที่ 29 พ.ค.) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ กลุ่มแบงก์ถ่วงตลาดในวันนี้ เพราะมองว่าหากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM) ลดลง

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

DEMCO มูลค่าการซื้อขาย 1,075.76 ล้านบาท ปิดที่ 17.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 996.99 ล้านบาท ปิดที่ 41.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 804.37 ล้านบาท ปิดที่ 8.40 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 641.87 ล้านบาท ปิดที่ 86.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

          CK        มูลค่าการซื้อขาย   641.53 ล้านบาท  ปิดที่  26.75  บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ