ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 60.75 จุด หรือ 0.9% ที่ 6,521.46 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีเพิ่มขึ้น 1.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 165,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.5% จากระดับ 7.6% ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551
นอกจากนี้ อัตราการจ้างงานเดือนก่อนหน้านี้ยังได้รับการปรับทบทวนขึ้นมาเป็น 138,000 ตำแหน่ง เทียบกับรายงานเบื้องต้นที่ 88,000 ตำแหน่ง
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดนี้ช่วยสนับสนุนมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของอังกฤษกำลังฟื้นตัว แม้เป็นการฟื้นตัวที่ไม่มากนัก แต่ก็ดีกว่าในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายแห่ง
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เป็นแกนนำหุ้นบวก ภายหลังราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลหะลอนดอนปรับตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่สุด เพิ่มขึ้น 3.7% ริโอ ทินโต กรุ๊ป บวก 4% ยูเรเซียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส คอร์ป (อีเอ็นอาร์ซี) พุ่ง 12%
ด้านแมน กรุ๊ป ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่สุดของยุโรป ทะยาน 13% หลังบริษัทเผยแผนซื้อหุ้นคืน หรือจ่ายเงินปันผลพิเศษ
อย่างไรก็ตาม หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ร่วงลง 5.7% หลังจากที่ธนาคารรายงานผลกำไรจากการดำเนินงานลดลงแตะ 829 ล้านปอนด์ จาก 1.16 พันล้านปอนด์ในปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนจะปิดทำการในวันจันทร์ เนื่องในวันหยุด