ก.ล.ต.ขอโบรกฯทำcompany report วิเคราะห์ข้อมูลช่วยตัดสินใจลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 6, 2013 10:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. ขอความร่วมมือจากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยเพื่อผลักดันให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จัดทำข้อมูลสำคัญในเชิงวิเคราะห์ของหลักทรัพย์ (company report) ที่ลูกค้าสนใจลงทุนจำนวนมาก สำหรับหลักทรัพย์ที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด 20 อันดับแรกของลูกค้าทุกประเภทของ บล. แต่ละแห่ง หรือหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด 10 อันดับแรกของลูกค้าบุคคล อย่างใดอย่างหนึ่ง ในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ในกรณีที่หลักทรัพย์เหล่านั้นยังไม่มีบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (full report) โดยมีผลตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป

ข้อมูลใน company report จะมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุน เช่น ข้อมูลอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ รวมทั้งมีการเปรียบเทียบข้อมูลของบริษัทที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน เป็นต้น โดยจะไม่มีราคาแนะนำแต่อย่างใด ขณะนี้สมาคมอยู่ระหว่างหารือร่วมกับ บล. เพื่อกำหนดรูปแบบข้อมูลสำคัญดังกล่าว ก่อนที่จะขอความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. เพื่อออกประกาศสมาคมต่อไป

จากสถิติช่วงที่ผ่านมา ผู้ลงทุนทั่วไปในประเทศมีมูลค่าการซื้อขายหุ้นที่มีค่าอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) สูง และหุ้นที่เข้าเกณฑ์ต้องวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวน (cash balance) ในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับผู้ลงทุนกลุ่มอื่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ไม่มีบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่จัดทำโดย บล. ประกอบกับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีผู้ลงทุนรายใหม่เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ดังนั้น การจัดทำ company report จะทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปมีข้อมูลมากขึ้นเพื่อใช้ในการตัดสินใจลงทุน

บล. ต้องจัดทำและเผยแพร่ company report ของแต่ละหลักทรัพย์เป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน และต้องปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน หากมีข้อมูลที่อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานหรือราคาของหลักทรัพย์นั้น ๆ นอกจากนี้ ในกรณีที่หลักทรัพย์ใดเข้าข่ายต้องทำ company report ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ บล. ต้องจัดทำบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของหลักทรัพย์นั้นโดยเร็ว

"บทวิเคราะห์เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ลงทุนไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน เพราะทำให้ผู้ลงทุนได้ศึกษาว่าหลักทรัพย์ของบริษัทนั้นน่าลงทุน หรือสอดคล้องกับความต้องการในการลงทุนที่แท้จริงของผู้ลงทุนหรือไม่ ...ปัจจุบันพฤติกรรมการลงทุนของผู้ลงทุนส่วนหนึ่งเปลี่ยนแปลงไป โดยหันมาลงทุนในหลักทรัพย์ที่มี P/E สูง และติดเกณฑ์ cash balance โดยที่ผู้ลงทุนอาจไม่รู้จักบริษัทเหล่านั้นอย่างแท้จริง " นายวรพล กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ