“ก่อนหน้านี้เรามีออร์เดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมากแต่ผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ หลังบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้นำเงินระดมทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้นมาซื้อเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงการผลิตให้เป็น Semi-automatic มากขึ้น เพื่อผลิตให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มมีการติดตั้งเครื่องจักรไปบ้างแล้ว คาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าได้ภายในไตรมาส 2/56 นี้ ซึ่งจะช่วยให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดต้นทุนด้านแรงงานด้วยเช่นกัน"นายอารักษ์ กล่าว
สำหรับการขยายตลาดต่างประเทศ บริษัทได้ลงนามในสัญญาจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์กับลูกค้าในประเทศดูไบ มูลค่ารวมประมาณ 120 ล้านบาท เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังได้มีการสำรวจตลาดและเจรจากับลูกค้าใน ประเทศเกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ กลุ่มประเทศ AEC เพื่อทำสัญญาการซื้อขายเฟอร์นิเจอร์ระหว่างกัน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้
บริษัทยังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 9 พ.ค. 56 พิจารณาจ่ายปันผลระหว่างกาล จากกำไรสะสมของบริษัทที่มี 44 ล้านบาท โดยปี 55 บริษัทมีรายได้รวม 1,080 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 35.64 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีนโยบายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
ส่วนแนวโน้มผลประกอบไตรมาส 1/56 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างเด่นชัดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องในต่างประเทศ ทั้งจากฐานลูกค้าเดิมในญี่ปุ่นและตะวันออกกลางที่เพิ่มออเดอร์เข้ามา และตลาดในประเทศที่เตรียมจะขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านทางโมเดิร์นเทรดและร้านค้าทั่วประเทศมากขึ้น
“ตลาดในประเทศเราเริ่มมีการเข้าไปเจรจากับร้านค้าในประเทศแล้ว เพื่อขยายตลาดร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ในจังหวัดต่างๆมากขึ้น โดยจะใช้แบรนด์ Costa ในการรุกตลาด ขณะเดียวกันก็จะมีการขยายตลาดผ่านโมเดิร์นเทรดต่างๆขนานกันไปด้วย"นายอารักษ์ กล่าว