(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้มีโอกาสฟื้นตัวตามหุ้นโลก แต่ปมขัดแย้งการเมืองกดดัน

ประกอบกับ ความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) น่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลังจากที่มีการปรับลดไปเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ยังเป็นปัจจัยให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเป็นบวกได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นยังน่าจะอยู่ในกรอบแนวต้านสำคัญที่ 1,600 จุด เนื่องจากยังมีปมขัดแย้งทางการเมืองกดดันอยู่ ทั้งความขัดแย้งระหว่างรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) การนัดชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงเพื่อกดดันศาลรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้(8 พ.ค.) รวมทั้งสภาฯจะเปิดประชุมช่วงปลายเดือนนี้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท รวมถึงอาจจะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางการเมือง

ขณะที่ตลาดภูมิภาคมีทั้งเคลื่อนไหวในแดนบวกและลบกระจัดกระจาย

พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวของดัชนี SET วันนี้ไว้ที่แนวรับ 1,570-1,575 จุด และแนวต้าน 1,600 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(6 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 14,968.89 จุด ลดลง 5.07 จุด(-0.03%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,617.50 จุด เพิ่มขึ้น 3.08 จุด(+0.19%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,392.97 จุด เพิ่มขึ้น 14.34 จุด(+0.42%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 266.00 จุด ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.31 จุด ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 9.20 จุด ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 8.53 จุด ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.80 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.51 จุด ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 1.08 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 8.21 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 6.50 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(3 พ.ค.)ที่ 1,578.95 จุด ลดลง 10.24 จุด(-0.64%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,214.03 ล้านบาท เมื่อ 3 พ.ค.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(6 พ.ค.)ที่ 96.16 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.5 ดอลลาร์ฯ
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(6 พ.ค.)ที่ 4.8 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.58/60 รอดูท่าทีทางการในการดูแลค่าเงินบาท
• "บีโอไอ"เตรียมหารือกระทรวงการคลังวางมาตรการหนุนผู้ประกอบการไทยไปลงทุนต่างประเทศ ลดผลกระทบบาทแข็ง ชี้เอกชนไทยติดปัญหานำกำไรกลับเข้าประเทศเสียภาษีซ้อน เล็งตั้งสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนในอาเซียน 3 ประเทศ พม่า เวียดนามและอินโดนีเซีย ดึงเอสเอ็มอีไทยลงทุนอาเซียน ศรีไทยซุปเปอร์แวร์จี้รัฐออกมาตรการจูงใจนำกำไรกลับเข้าไทย ด้านผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่ม แนะมีนโยบายเหมือนฮ่องกงหนุนไปลงทุนต่างประเทศและขนกำไรกลับสะดวก
• กรมบัญชีกลางชี้ประมูลโครงการลงทุนน้ำ 3.4 แสนล้านบาท อาจขัดกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 103/7 ที่ระบุหน่วยงานรัฐที่จัดซื้อจัดจ้างต้องประกาศราคากลาง แต่รัฐไม่ปฏิบัติตาม ขณะที่การจัดซื้อจัดจ้างแผนลงทุน 2 ล้านล้านบาทต้องทำตามกฎหมายป.ป.ช.ด้วย ด้าน"วิชา"ตั้งทีมเกาะติดโครงการฯ เตรียมเรียก"ปรเมศวร์"ให้ข้อมูลเพิ่มกรณียื่นหนังสือกล่าวหานายกฯ ครม.ดำเนินการโครงการน้ำไม่ถูกต้อง
• จับตาบอร์ดกสท.เคาะราคาตั้งต้นประมูล"ทีวีดิจิทัล"ธุรกิจ 24 ช่องวันนี้ ทีมจุฬาฯ เสนอตัวเลขมูลค่าคลื่นฯใหม่ ช่องเอชดี 1.5 พันล้าน ,วาไรตี้ 374 ล้าน ,ข่าว 211 ล้าน และเด็ก 134 ล้านบาท รวมรายได้ 1.5 หมื่นล้าน ชงวิธีประมูลเคาะเพิ่มตามเปอร์เซ็นต์ราคาตั้งต้น ช่องเอชดีสูงสุดครั้งละ10% เดินหน้าประมูล ส.ค.-ก.ย.นี้ ด้านผู้ประกอบการชี้ช่องเอชดี"แพง"แนะไม่ควรเกิน 1 พันล้าน ระบุค่าโครงข่ายไม่ชัดเจน
• นายกสมาคมผู้ค้าทองคำ เปิดเผยว่า ขณะนี้ร้านค้าทองคำในเยาวราชที่มีชื่อเสียงหลายรายไม่มีทองคำมาจำหน่ายหน้าร้าน เพราะตั้งแต่ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่ำกว่า 20,000 บาท นักลงทุนและลูกค้ารายย่อยก็หันมาซื้อทองคำเพื่อเก็บออมจำนวนมาก ทำให้โรงงานผลิตทองคำส่งมอบให้ร้านค้าทองไม่ทัน
• ผู้อำนวยการสำนักนโยบายปิโตรเลียมและปิโตรเคมี สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)เปิดเผยว่าสนพ.ได้ประกาศราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ภาคอุตสาหกรรมประจำเดือน พ.ค. ที่ 28.07 บาทต่อกิโลกรัม(กก.)ลดลง 1.52 บาทต่อ กก.จากเดือน เม.ย.
• ตลาดหลักทรัพย์วางแผนขยายฐานนักลงทุนเพิ่มเท่าตัวใน 6-7 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 8.5 แสนบัญชี รุกให้ความรู้นักลงทุนต่างจังหวัด เจาะ 10 หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เผยอยู่ระหว่างปรับระบบงานหลังบ้าน หรือแบ็คออฟฟิศ เอื้อนักลงทุนซื้อขายได้ทุกตลาด และทุกสกุลเงิน คาดว่าแล้วเสร็จสิ้นปี 2557 "ก.ล.ต."ขอความร่วมมือโบรกเกอร์ ทำข้อมูลสำคัญเชิงวิเคราะห์หุ้นที่มีวอลุ่มเทรดสูงสุด 10 หรือ 20 อันดับแรก เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุน
• นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงระบบงานหลังบ้านของบริษัทสมาชิก (โบรกเกอร์) ทางด้านการชำระราคาและส่งมอบ(เคลียริ่งแอนด์เซตเทิลเมนต์) ของหุ้นและในส่วนของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(TFEX) ด้วย โดยวางแผนว่าภายใน 18 เดือนข้างหน้า จะต้องแล้วเสร็จหรือประมาณช่วงปลายปี 2557

*หุ้นเด่นวันนี้

• SYMC(เกียรตินาคิน)เป้า 24 บาท คาดกำไรสุทธิ Q1/56 ราว 55 ล้านบาท แม้ว่าจะลดลง 11% YoY แต่เพิ่มขึ้น 19% QoQ โดยกำไรสุทธิที่ลดลง YoY มองว่าจะเป็นผลบวกในอนาคต เนื่องจากเป็นผลจากการขยายโครงข่าย ทำให้ต้นทุนและค่าเสื่อมเร่งตัวขึ้นกว่ารายได้ เช่นเดียวกับค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสำนักงานสาขา และทำตลาดต่างหวัด ทั้งนี้ประเมินว่าผลบวกของการขยายโครงข่ายจะส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 56—58 เติบโตเฉลี่ย 18%
• BEC(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 73.20 บาท คาดกำไร Q1/56 จะเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 1,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 12% QoQ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หลังจาก Nielsen รายงานยอดใช้งบโฆษณา 1Q56 ของช่อง 3 มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มฟรีทีวีที่ 11% YoY และ 4% QoQ นอกจากนี้ BEC ยังได้ประโยชน์จากอัตราภาษีนิติบุคคลที่ลดลงเหลือ 20% ในปี 56 ด้วย
• PTTGC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 81 บาท รายงานผลประกอบการ 1Q56 วันนี้คาดกำไรโต +25.9% yoy และ +19.4% qoq เป็น 12,407 ล้านบาท จากการใช้กำลังการผลิตโรงกลั่นสูงขึ้น และส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ปรับตัวขึ้น และหุ้นกลุ่มพลังงานได้ Sentiment บวกจากการไต่ขึ้นของราคาน้ำมันดิบ NYMEX รวม 3 วันทำการ +5.6% เป็น US$96.16/barrel อีกทั้งราคาหุ้นมี Valuation ที่ค่อนข้างถูก ซื้อขายบน PER 56 ที่ 9.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มพลังงาน
• JAS(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 12.40 บาท จะรายงานผลประกอบการ 1Q56 สัปดาห์นี้ คาดกำไรสุทธิ 1Q56 โตโดดเด่นเป็น 744 ล้านบาท +28% qoq และ +60% yoy จากการเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจ Broadband ขณะที่ต้นทุนโครงข่ายเป็น Fixed Cost ดังนั้น จึงเข้าสู่การเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนในอย่างเต็มที่ตามจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ภาพรวมกำไรปี 56 คาดโต +54.9% yoy เป็น 3,309 ล้านบาท