ด้านธุรกิจโรงกลั่นมีการกลั่นเฉลี่ย 99,950 บาร์เรล/วัน ค่าการกลั่นพื้นฐานอยู่ในเกณฑ์ดีที่ระดับ 7.97 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และเมื่อรวมกับกำไรธุรกิจด้านการตลาด ทำให้มี Gross Integrated Margin(GIM) 14.76 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับธุรกิจการตลาดมีการขยายสถานีบริการน้ำมันในทำเลที่มีศักยภาพ พร้อมทั้งพัฒนาภาพลักษณ์และคุณภาพด้านบริการ ประกอบกับประชาชนนิยมใช้พลังงานทดแทนไบโอดีเซลและแก๊สโซฮอล์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และล่าสุดได้จำหน่ายแก๊สโซฮอล์ E20 มาตรฐานยูโร 5 เป็นรายแรกในเอเชีย มีค่าซัลเฟอร์ลดลง 5 เท่าเมื่อเทียบกับมาตรฐานยูโร 4 นอกจากนี้ยังเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจเสริมในสถานีบริการน้ำมันเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น ทำให้ปริมาณจำหน่ายน้ำมันรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3
นายวิเชียร กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบไตรมาส 2 ว่า มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากไตรมาส 1 โดยเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 95-105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากเป็นช่วง Low Season มีการใช้น้ำมันลดลง ประกอบกับ โรงกลั่นในหลายประเทศปิดซ่อมบำรุง คาดว่าอาจจะปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 3 ทั้งนี้ บริษัท ได้ทำประกันความเสี่ยงด้านราคาน้ำมันไว้แล้วส่วนหนึ่ง
อนึ่ง ธุรกิจใหม่พลังงานทดแทนจากเซลล์แสงอาทิตย์ในเฟส 3 ที่ภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังผลิตรวม 48 เมกะวัตต์ มีแผนก่อสร้างในเดือนสิงหาคมนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 57 เมื่อรวมกับเฟส 1 และเฟส 2 ที่อำเภอบางปะอิน อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งได้เปิดดำเนินการไปแล้ว จะทำให้มีกำลังผลิตรวมทั้งสิ้น 118 เมกะวัตต์ ส่งผลให้บางจากฯ มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้นเป็น 2,800 ล้านบาท