นายวิเชาน์ รักพงษ์ไพโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่ม ด้านปฏิบัติการ ด้านคุณภาพโครงข่ายการปฏิบัติการและบำรุงรักษา TRUE กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าจะมีสถานีฐาน 4G ไม่ต่ำกว่า 2,000 แห่งภายในสิ้นปีนี้ พร้อมเปิดให้บริการ 4G เฟสแรกด้วยความเร็วสูงสุดในการดาวน์โหลดและอัพโหลดเร็วกว่าเดิม 3-5 เท่าครอบคลุมย่านเศรษฐกิจสำคัญในกรุงเทพ เช่น สยามสแควร์ สีลม และสาทร และอีก 15 หัวเมืองหลักภายในสิ้นปี 56
ประกอบกับ การขยายเทคโนโลยี 3G บนโครงข่ายคลื่น 2,100 MHz ของทรูมูฟ เอช โดยตั้งเป้าจะมีสถานีฐานอีกประมาณ 5,000 แห่ง รวมทั้งขยาย 3G บนคลื่น 850 MHz เพิ่มเป็น 14,000 สถานีฐานภายในสิ้นปี 56 ทำให้ทรูมูฟ เอช มีสถานีรวมกว่า 21,000 สถานีฐานภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบัน ทรูมูฟ เอช ครอบคลุมทั่วประเทศถึง 13,000 สถานีใน 77 จังหวัด ครบทุกอำเภอทั้ง 928 อำเภอ 7,029 ตำบล และ 65,691 หมู่บ้าน(ข้อมูล ณ 10 เม.ย. 56)
นายศุภชัย กล่าวว่า ในปี 56 บริษัทใช้งบประมาณลงทุนโครงข่าย 1.5 หมื่นล้านบาท และในปี 57 บริษัทมีแผนจะขยายโครงข่ายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า โดยจะขยายโครงข่าย 3G บนคลื่น 2100 MHz จำนวน 10,000 สถานีฐาน จากปีนี้ 5,000 สถานี และโครงข่าย 4G LTE อีกจำนวน 4,000 สถานี จาก 2,000 แห่งในปีนี้ แต่ยังไม่ระบุงบลงทุนเพราะราคาอุปกรณ์มีแนวโน้มต่ำลง ส่วนการขขายโครงข่าย 3G บนคลื่น 850 MHz นั้นจะต้องหารือกับ บมจ.กสท โทรคมนาคม ซึ่งเป็นเจ้าของโครงข่ายก่อน
ทั้งนี้ การลงทุนในโครงข่าย 4G LTE เพราะบริษัทเห็นว่าคลื่น 2,100 MHz ที่ได้รับใบอนุญาตจำนวน 15 MHz สามารถพัฒนาเป็น 4G LTE พร้อมไปกับ 3G ซึ่งจะทำให้ความจุทำได้เพิ่มมากขึ้น "ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่เราพัฒนาเป็น 4G เพราะทั่วโลกก็กำลังเข้าสู่ 4G" นายศุภชัย กล่าว
ทั้งนี้ การให้บริการ 4G LTE จะช่วยทำให้การใช้งานดาต้ามีความเร็วสูงกว่าเดิม 3-5 เท่า ขณะเดียวกัน ยังได้ผสมผสานบริการ 3G บนคลื่น 850 MHz เนื่องจากเป็นคลื่นที่สามารถส่งสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ในวงกว้างด้วยความเร็ว แรง และสามารถทะลุทะลวงได้ดีโดยเฉพาะในอาคาร และเมื่อนำมาผสมรวมกับการขยายโครงข่าย 3G บนคลื่นความถี่ 2100 MHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่สูง ทำให้มีช่องสัญญาณที่กว้างขึ้น รองรับผู้ใช้บริการได้จำนวนมาก เหมาะสำหรับบริเวณที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น ให้ความเร็วในการใช้งานสูง โดยลูกค้าจะสามารถใช้งานสื่อสารได้อย่างไร้รอยต่อ
ขณะเดียวกัน เมื่อสัญญาสัมปทานที่ใช้คลื่น 1,800 MHz ที่จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย. 56 นี้ ก็คาดว่าจะมีโอกาสใช้ต่อเนื่อง รวมทั้งสนใจเข้าร่วมประมูลคลื่น 1,800 MHz ซึ่งหากประมูลได้ก็จะนำไปพัฒนาถึง 5G
นอกจากนี้ คาดว่าในปีนี้ธุรกิจโมบายจะถึงจุดคุ้มทุน(breakevent)แต่ภาพรวมของกลุ่ม TRUE ยังขาดทุนอยู่ ขณะเดียวกันการเจรจาหาพันธมิตรร่วมทุนก็ยังดำเนินการต่อไป ซึ่งขณะนี้มีหลายรายเข้ามาคุย
*ตั้งเป้าปีนี้มีลูกค้าใหม่ 4 ล้านราย
นายศุภชัย กล่าวว่า ในปี 56 บริษัทตั้งเป้าลูกค้ารายใหม่จากระบบบ 3G/4G จำนวน 4 ล้านราย จากปัจจุบันมีลูกค้า 3G บนคลื่น 850 MHz จำนวน 3.2 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 55 ที่มีจำนวน 2.89 ล้านราย ทำให้สิ้นปี 56 คาดว่าจะมีจำนวนลูกค้า 3G เพิ่มเป็นกว่า 6 ล้านราย โดยคาดว่าลูกค้าใหม่ 3G บนคลื่น 850 MHz จะมีมากที่สุด เพราะโครงข่ายครอบคลุมทั่วถึง ส่วน 3G บนคลื่น 2,100 MHz ก็จะขยายไปตามโครงข่าย
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้แบรนด์ True Move H ในการให้บริการ 3G บนคลื่น 850 MHz , 3G บนคลื่น 2100 MHz และ 4G LTE อย่างไรก็ตาม การย้ายลูกค้า 2G ไป 3G ต้องการให้เป็นไปตามกลไกตลาด และขึ้นอยู่กับการตอบรับของลูกค้าด้วย
"การให้บริการ 3G บนคลื่น 2,100 MHz เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ หลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุด เข้าสู่ระบบให้ใบอนุญาต เราจะพยายามรักษาความเป็นผู้นำ 3G ที่เราให้บริการก่อน และ 4G ก็จะเป็นผู้นำ" นายศุภชัย กล่าว
ด้านนายอติรุฒน์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจโมบายล์ TRUE กล่าวว่า บริษัทได้ปรับราคาค่าบริการลงประมาณกว่า 40% เมื่อเปรียบเทียบกับแพ็กเกจเดิม โดยวันนี้ได้จัดแพ็กเกจสำหรับลูกค้าใหม่ที่เปิดใช้บริการ 4G LTE โดยมี 3 แพ็กเกจ 699 บาทต่อเดือน โทรทุกเครือข่าย 300 นาที ใช้ 4G/3G/EDGE/GPRS ไม่จำกัด โดย 4G ความเร็วสูงสุดที่ 2 GB Wi-Fi ไม่จำกัด ,
แพ็กเกจ 899 บาท/เดือน โทรทุกเครือ่ข่าย 450 นาที ใช้ 4G/3G/EDGE/GPRS ไม่จำกัด โดย 4G ความเร็วสูงสุดที่ 3GB Wi-Fi ไม่จำกัด และ 1,099 บาท/เดือน โทรทุกเครือ่ข่าย 450 นาที ใช้ 4G/3G/EDGE/GPRS ไม่จำกัด โดย 4G ความเร็วสูงสุดที่ 4GB Wi-Fi ไม่จำกัด
หากเทียบจากค่าบริการแบบพรีเพด เมื่อ ธ.ค.55 เก็บค่าบริการ data 2 บาท/เมกะไบท์ แต่ปัจจุบันลดลงมาที่ 1 บาท/เมกะไบท์
ทั้งนี้ ทรูมูฟ เอช ต้องการรุกตลาดพรีเพดหรือเติมเงิน เพราะมีฐานลูกค้ามากที่สุด โดยมีส่วนแบ่งตลาด 90% ของตลาดโทรศัพท์มือถือ ขณะเดียวกันก็เข้าขยายตลาดโพสต์เพดหรือรายเดือน ที่มี 4G LTE ที่ลูกค้ามีความต้องการใช้ความเร็วสูง