สำหรับปริมาณการผลิตของบริษัทในปี 56 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มจากปีก่อนราว 10% ซึ่งมาจากแหล่ง S1 และแหล่งม่อนทาร่า โดยจะมีปริมาณน้ำมันดิบสูงขึ้น อีกทั้งแหล่งบงกชใต้จะรับรู้การผลิตได้เต็มปีจากปีก่อนที่รับรู้การผลิตแค่ครึ่งปี แม้ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้จะมีการปิดซ่อมบำรุงแหล่งเยตากุน แหล่งยาดานา และแหล่งสิริกิตติ์
"ปีนี้ปริมาณการขายและปริมาณการผลิตจะมีอัตราเติบโตที่สูงพอสมควร โดยปริมาณการผลิตตามแผนคาดว่าจะโต 10%"นายเทวินทร์ กล่าว
ส่วนแหล่งมอนทาร่าคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ภายในไตรมาส 2/56 โดยแจ้งให้ทีมทำงานว่าจะเริ่มการผลิตในเดือน พ.ค.56 ซึ่งขณะนี้มีความเป็นไปได้ราว 80-90% ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเริ่มต้นคาดว่าจะมีวันละกว่า 1 หมื่นบาร์เรล และจะเพิ่มเป็น 2.4-2.5 หมื่นบาร์เรลภายในสิ้นปีนี้ และถึงแม้จะผลิตได้ล่าช้ากว่าแผนงานที่วางไว้ในเดือน เม.ย.56 ก็ไม่ได้ทำให้สูญเสียรายได้อย่างมีนัยสำคัญ
นายเทวินทร์ กล่าวว่า เร็วๆ นี้ รัฐบาลพม่าเตรียมเปิดประมูลสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมในทะเลลึก โดยบริษัทฯ มีความสนใจและกำลังศึกษารายละเอียดของสัมปทานดังกล่าว และอาจไม่จำเป็นต้องเข้าไปร่วมทุนในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้สัมปทานแหล่งปิโตรเลียมบนบกแล้ว 2 แปลง
สำหรับผลประกอบการของบริษัทช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีกำไรสูงสุดเท่าที่เคยมีมา เนื่องจากบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายไม่มาก ทำให้มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 585 ล้านเหรียญสหรัฐ ดีกว่าในไตรมาส 4/55 ถึง 18% ส่วนไตรมาส 2/56 ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบสูงกว่าแผนงานที่บริษัทกำหนดไว้