ก.ล.ต.ผ่อนเกณฑ์ทำธุรกิจนายหน้าขายกองทุนรวม-ลดค่าธรรมเนียมพิเศษ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 13, 2013 16:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. จะอนุญาตให้บริษัทที่ต้องการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เฉพาะการเป็นนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวม สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตแบบ ง. ได้โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท จากปัจจุบันผู้ที่ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทดังกล่าว ต้องมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท หากเข้าเงื่อนไขว่าบริษัทดังกล่าวต้องไม่มีการเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้า ไม่ลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อบริษัทเอง หรือไม่มีภาระในการชำระราคาและการส่งมอบหลักทรัพย์

นอกจากนี้ หากบริษัทใดประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าขายหน่วยลงทุนของ บลจ. ตั้งแต่ 10 บริษัทขึ้นไป และเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตั้งแต่ 3 ประเภทขึ้นไป เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมตราสารทุน และกองทุนรวมผสม เป็นต้น จะเสียค่าธรรมเนียมการประกอบธุรกิจในอัตราพิเศษที่ต่ำลงกว่าเดิมมาก

ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะเปิดโอกาสให้บริษัทที่จัดตั้งและประกอบธุรกิจอื่นอยู่ก่อนแล้ว สามารถยื่นคำขอรับใบอนุญาตแบบ ง. ได้ หากมีคุณสมบัติตามที่กำหนด เช่น ประเภทธุรกิจเดิมต้องเกี่ยวเนื่อง สนับสนุน หรือเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจที่จะขอรับใบอนุญาต และไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ซึ่งปัจจุบันอนุญาตให้เฉพาะบริษัทหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต และบริษัทจัดตั้งใหม่เท่านั้น โดยจะมีการแก้ไขกฎกระทรวงต่อไป

การดำเนินการดังกล่าวเพื่อสนับสนุนให้มีผู้ประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนเพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มช่องทางให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงการให้บริการทางการเงินได้สะดวก มีกองทุนรวมของ บลจ. หลายแห่ง และหลายประเภทให้เลือกลงทุนได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการและความสามารถในการรับความเสี่ยง รวมทั้งให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับคำแนะนำการลงทุนในกองทุนรวมที่มีความหลากหลาย จากผู้ประกอบการที่มีความเป็นอิสระ

“การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งลงทุนในตลาดทุนจะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญในการบริหารเงินลงทุน สนใจเรียนรู้และเข้ามาลงทุนในตลาดทุนมากขึ้น ไม่จำกัดเพียงหน่วยลงทุน แต่อาจขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น และเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการจะใช้ช่องทางการประกอบธุรกิจอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างฐานลูกค้าให้มากและหลากหลายยิ่งขึ้น รองรับการแข่งขัน ซึ่งจะช่วยให้ตลาดทุนไทยได้รับการพัฒนาในเชิงกว้างและลึกยิ่งขึ้น" นายวรพล กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ