CHO ปิดเทรดวันแรก 2.90 บาท เหนือจอง 1.10 บาท (+61.11%) จากราคา IPO 1.80 บาท โดยเปิดตลาดที่ 3.72 บาท สูงสุด 3.78 บาท ต่ำสุด 2.90 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,062.31 ล้านบาท
ราคาหุ้นของ บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน(CHO)เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) วันแรก เปิดตลาดที่ราคา 3.72 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาไอพีโอ 106.66% และราคาสูงสุดของวันนี้อยู่ที่ 3.78 บาทต่อหุ้น สุดท้ายปิดตลาดที่ระดับ 2.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท หรือ 61.11% มีมูลค่าการซื้อขายรวม 2.06 พันล้านบาท
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHO กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นปิดเหนือราคาจอง เนื่องจากได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักลงทุน ซึ่งเป็นผลจากความเชื่อมั่นที่มีต่อบริษัทด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และความเชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมที่สร้างความมีชื่อเสียงให้บริษัทด้วยดีตลอดมา โดยเฉพาะรถลำเลียงอาหารสำหรับเครื่องบินแอร์บัส A380 ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในสองของโลก
“การที่ CHO เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก และราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนให้ความสนใจและเชื่อมั่นต่อพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัท ประกอบกับการที่บริษัทมีพันธมิตรทางธุรกิจเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกช่วยสนับสนุน ทำให้ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นต่อการเติบโตในอนาคต"
นายสุรเดช กล่าวถึงเป้าหมายการดำเนินธุรกิจด้วยว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิต และเป็นผู้ผสานเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมระดับโลก เข้ากับการจัดการอย่างมืออาชีพ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ (The Engineering and Management Integrator) โดยจะเป็นผู้ร่วมสร้างและเพิ่มอำนาจการแข่งขันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีระบบราง โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และเติบโตอย่างมีศักยภาพ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างดีที่สุด
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ CHO กล่าวว่า CHO ถือได้ว่ามีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังเป็นผู้นำในการออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์ชั้นแนวหน้าของประเทศไทย ประกอบกับปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมยื่นงานประมูลทั้งภาครัฐและเอกชน ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจของบริษัทฯมากยิ่งขึ้น