นอกจากนั้น บริษัทยังเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการประมูลงานอีก 150 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทฯ เพิ่งคว้างานเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี SCG มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท รวมถึงยังมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกหลายงาน อาทิ งานเปิดตัว 4G ของค่าย Truemove H , จัดบูธของ ธนาคารกรุงเทพ ในงาน Money Expo, งานออกแบบและจัดสร้างพิพิธภัณฑ์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และ นิทรรศการถาวรพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จ.อุบลราชธานี ภายใต้กองทัพภาคที่ 2 เป็นต้น
CMO ยังมีธุรกิจใหม่ ชื่อว่า “The Glitz" ซึ่งจะให้บริการด้าน Private Lifestyle ในระดับไฮเอนด์ เปรียบเหมือนผู้ช่วยส่วนตัวในการจัดหาสิ่งพิเศษเหนือธรรมดา เช่น ดูดวงกับหมอดูระดับโลก, จองที่นั่งที่ดีที่สุดในภัตตาคารสุดหรูในนิวยอร์ก แถมยังมีบริการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวแบบ Exclusive เป็นต้น ซึ่งจัดเป็นกลุ่มธุรกิจน็อนอีเว้นต์ (Non-Event) เพื่อบาลานซ์รายได้จากธุรกิจอีเวนต์ โดยปีนี้เริ่มมีความชัดเจนขึ้น รวมทั้งยังเตรียมขยายธุรกิจไปยังกลุ่มเอ็นเตอร์เทนเมนต์ด้วย
สำหรับแผนขยายงานสู่ตลาดต่างประเทศปีนี้มีแนวโน้มเติบโตดี โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้จากต่างประเทศประมาณ 5-6% ของรายได้รวม ซึ่งในไตรมาสแรกก็เป็นสัญญาณที่ดี โดยบริษัทได้รับจัดงานในต่างประเทศ อาทิ จัดงานเปิดตัวเที่ยวบินกรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ของสายการบินไทยสไมล์ ของบมจ. การบินไทย (THAI) ,งานเปิดตัวโคคา โคลา ที่ประเทศลาว ,งานสงกรานต์ "เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์" Songkran gkran Splendours ณ ประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 1/56 บริษัทฯ มีรายได้ 224.43 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 4.14 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้ในไตรมาสแรกของปีนี้มีอัตราการเติบโตตามสภาพตลาดของธุรกิจอีเว้นต์ ซึ่งหากนำไปเปรียบเทียบกับรายได้ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จะเห็นว่าลดลง เนื่องจากปีก่อนมีการรับรู้รายได้จากงานบีโอไอแฟร์ ซึ่งถือเป็นกรณีพิเศษ
“ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ CMO ถือว่าเติบโตเป็นปกติ ในอัตราที่น่าพอใจ ซึ่งมาจากการที่บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากทั้งภาคเอกชน และภาครัฐบาล ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่า รายได้ทั้งปีเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,200 ล้านบาทได้แน่นอน"นายเสริมคุณ กล่าว