พร้อมมองว่าภาพรวมธุรกิจของ EPCO ในปีนี้จะสามารถเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% หรือประมาณ 900 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ที่ 691.17 ล้านบาท เนื่องจากจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัด จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ ที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเริ่มจ่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไปแล้วตั้งแต่เดือน ต.ค.55 ที่ผ่านมา ประมาณการรายได้จากโครงการดังกล่าว ประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งโครงการดังกล่าวมีสัญญาเป็นระยะเวลา 25 ปี และมีรายได้ตลอดอายุสัญญาไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านบาท
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ปลายปี 56 และจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/56 อย่างไรก็ตามรายได้จากธุรกิจพลังงานจะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 56 ซึ่งบริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจเพิ่มอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันรายได้และกำไรให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
นายยุทธ กล่าวว่า ไตรมาส1/2556 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 ของบริษัทและบริษัทย่อย ปรากฎว่ามีกำไรสุทธิจำนวน 47.07 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 21.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.45 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 118% โดยมีรายได้รวม 226.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 174.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.04 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 30%
“ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้ถือว่าเติบโตอย่างโดดเด่น เรียกได้ว่าทำกำไรสูงสุด เห็นแล้วปลาบปลื้มใจแทนผู้ถือหุ้นเป็นอย่างยิ่ง โดยกิจการสิ่งพิมพ์มีกำไรเพิ่มขึ้น 21% หรือ 4.98 ล้านบาท และกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีกำไรเพิ่มขึ้น 20.46 ล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่อำเภอบ่อพลอยและอัตรากำไรขั้นต้นของกิจการสิ่งพิมพ์ในไตรมาส 1/56 เพิ่มขึ้นเป็น 24.2 % จากในไตรมาส 1/55 ที่ 17.4% และคาดว่าตลอดปี 56 จะคงไว้ที่ 22.5 % เพราะจะมียอดขายสิ่งพิมพ์เพิ่มขึ้นกว่า 15 % จากปี 55"นายยุทธ กล่าว