สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB145B LB176A และ LB196A (รุ่นอายุ 1.0 ปี 4.1 ปี และ 6.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 15,772 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) (KSL139A) มูลค่า 504 ล้านบาท
2. บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT138A) มูลค่า 282 ล้านบาท
3. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI165A) มูลค่า 211 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 997 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 28,335 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 5,948 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ มูลค่า 1,783 ล้านบาท
Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุตราสาร ประมาณ 1 — 5 basis point (100 basis point เท่ากับ 1%) จากแรงขายเพื่อทำกำไรและลดพอร์ตของนักลงทุนบางส่วน ภายหลังผลการประชุมหารือร่วมกันระหว่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง และภาคเอกชน ไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการใดๆออกมา ซึ่งนักลงทุนคาดว่ามีโอกาสน้อยลงที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมกนง. 29 พ.ค.นี้ ทั้งนี้การประมูลพันธบัตรระยะสั้นอายุ 6 เดือน จำหน่ายได้ไม่เต็มวงเงินประมูล สำหรับนักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิเท่ากับ 1,783 ล้านบาท