"ปีนี้หากราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์เท่าปีที่ผ่านมา ผลงานก็จะโตดีกว่าปีก่อน เพราะมีผลกำไรจากการเพิ่มมูลค่า แต่ขณะนี้แนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์และสเปรดจะดีกว่าปีก่อน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 500 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้มั่นใจว่าผลดำเนินงานดี โดยคาดว่าน้ำมันดิบ 100 เหรียญฯ" นายอนนต์ กล่าว
พร้อมระบุว่า แม้ในช่วง 5 ปีจากนี้ยอดขายเฉลี่ยจะโตไม่มากคือ 2-3% แต่กำไรจะโตก้าวกระโดด ส่วนในอีก 5 ปีหลังของแผน 10 ปี บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้จากการออกไปลงทุนในต่างประเทศ ทั้งจากมาเลเชียกับปิโตรนาสที่คาดว่าปีนี้จะสรุปการร่วมทุนได้ ขณะที่ได้ทำการศึกษาในการร่วมทุนกับเปอโตมีน่าอินโดนีเซีย และคาดว่าจะสรุปการร่วมทุนและเซ็นสัญญาการร่วมทุนที่คาดจะใช้เงิน 4-5 พันล้านเหรียญ โดย PTTGC จะดึงพาร์ทเนอร์เข้ามาช่วยด้านเทคโนโลยี ซึ่งก็จะทำให้บริษัทฯ ไม่ต้องถือสัดส่วนถึง 49%
นายอนนต์ ยืนยันด้วยว่า บริษัทฯ ไม่มีแผนควบรวมกับ บมจ.ไออาร์ซีพี(IRPC) แน่นอน แต่จะมีเพียงการทำงานร่วมกันเป็นโครงการไป นอกจากนี้มองว่า ราคาผลิตภัณฑ์และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบดีขึ้นจากปีก่อน แม้ว่ายังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็เห็นแนวทางแก้ไขหนี้ของยุโรปและการฟื้นตัวของสหรัฐฯ และจีน