ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อหุ้นแบงก์ หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 123.57 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 15, 2013 06:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาราอย่างคึกคัก และยังขานรับการแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้นขึ้น 123.57 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 15,215.25 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 16.57 จุด หรือ 1.01% ปิดที่ 1,650.34 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 23.82 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 3,462.61 จุด

ในช่วงแรกนั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเนื่องจากข้อมูลที่ระบุว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนพ.ค.ขยับขึ้นเล็กน้อย มาอยู่ที่ 36.4 จาก 36.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 40

ขณะเดียวกันตลาดในช่วงแรกได้รับแรงกดดันหลังจากชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย ยืนยันความคิดของตนเองว่า เมื่อพิจารณาจากสภาพตลาดแรงงานในขณะนี้ เฟดควรเริ่มลดการซื้อพันธบัตรอย่างเร็วที่สุดในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งหน้า ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ โดยเขาคาดว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะอยู่ที่ราว 7% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากไม่มีอะไรมาทำให้การคาดการณ์นี้ผิดพลาด เขาก็คาดหวังว่า เฟดจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรก่อนสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.77% หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ดีดขึ้น 2.46% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 1.13%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายเดวิด เทปเปอร์ ผู้บริหารบริษัท แอพพาลูซา เมเนจเมนท์ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า "ผมมั่นใจว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงคึกคัก" นักลงทุนจับตาดูธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนเม.ย.ในวันนี้ เวลา 20.15 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะลดลง 0.2% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการใช้กำลังผลิตจะอยู่ที่ 78.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ