SMT บวก 6.82% อยู่ที่ 9.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท เมื่อเวลา 10.50 น.โดยเปิดตลาดที่ 9.20 บาทสูงสุด 9.45 บาท ต่ำสุด 9.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 24.75 ล้านบาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย)(SMT) ราคาเป้าหมาย 10.80 บาท/หุ้น จากผลขาดทุนปกติที่ยังสูงใน 1Q56 ทำให้ปรับประมาณการกำไรลงเป็น 332 ล้านบาทในปี 56 และเติบโตก้าวกระโดด 53% YoY เป็น 498 ล้านบาทในปี 57 เมื่อการดำเนินงานเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่แนวโมอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากสัดส่วน VA ของธุรกิจ IC (อัตรากำไรสูงกว่า 10%) ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จาก HDD (อัตรากำไรขั้นต้น 3-4%) ทรงตัว
นอกจากนี้ด้วยภาพธุรกิจที่ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะเริ่มทำกำไรได้ใน 2Q56 เป็นต้นไป จึงเพิ่มระดับ PER ในการประเมินมูลค่าจาก 11 เท่า เป็น 12 เท่าเช่นเดียวกับหุ้นอื่นในกลุ่มทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 10.80 บาท และราคาตลาดได้ปรับตัวลงจากที่ปรับลดคำแนะนำเป็นถือ แล้ว 38% ทำให้มี Upside gain จากราคาเป้าหมายใหม่ของเราอยู่ 22%
ปัจจุบันการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับคุ้มทุนที่ 50-60% แล้ว และเครื่องจักรสำหรับ IC ที่ 120 ล้านชิ้น/เดือน สามารถผลิตได้ทั้งหมด ขณะที่คำสั่งซื้อจากลูกค้าจะทยอยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และด้วยอุปสงค์จากลูกค้าที่สูงกอปรกับความต้องการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจเน้นผลิต IC มากขึ้นทำให้บริษัทขยายกำลังการผลิต IC เพิ่มเป็น 150 ล้านชิ้น/เดือน ซึ่งกำลังการผลิตใหม่นี้จะสร้างรายได้ใน 3Q56 เป็นต้นไป ประเมินว่า SMT จะมีกำไรครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาสใน 2Q56 และจะกลับมาเป็นปกติหรือดีกว่าเดิมได้ใน 3Q56 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ SMT จะประกาศพันธมิตรในธุรกิจ RFID tag ในบริษัท SSRFID (บริษัทย่อยของ SMT) ช่วงปลาย 2Q56 แต่เรายังไม่ให้น้ำหนักกับธุรกิจนี้มากนักเนื่องจากต้องใช้เวลาในการสร้างรายได้ จึงยังไม่มีนัยสำคัญต่อผลประกอบการของ SMT ในช่วงแรก