ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้(backlog)ราว 1,200 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ พร้อมทั้งอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีกมูลค่าประมาณ 1,600-1,700 ล้านบาท คาดมีโอกาสชนะได้งานดังกล่าวประมาณร้อยละ 20-25 และมั่นใจผลงานทั้งปี จะเป็นไปตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้เติบโตไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท จากปี 55 ที่มีรายได้รวม 1,094.93 ล้านบาท
“ในปีนี้ PYLON ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดี ในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง งานฐานรากเสาเข็มเจาะที่มีแนวโน้มเติบโตสูง มีงานไหลเข้ามาในตลาดค่อนข้างมาก ทั้งงานโปรเจ็กต์จากภาครัฐบาลและเอกชน เห็นได้จากตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับงานใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าผลงานในไตรมาส 2/56 จะเติบโตกว่าไตรมาสที่ผ่านมาได้ แม้เป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวติดกันหลายวัน มั่นใจผลงานปีนี้ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นทุกท่านผิดหวัง และคาดว่าน่าจะเป็นปีที่ผลประกอบการบริษัทฯ เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกด้วย"นายบดินทร์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยงวดประจำไตรมาส 1/56 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.56 บริษัทมีกำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 26.49 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 16.35 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 38.17 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 42.84 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการรับจ้างงานก่อสร้างจำนวน 265.30 ล้านบาท ลดลง 104.24 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.21 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 369.54 สาเหตุที่รายได้ลดลงเนื่องจากบางโครงการเริ่มงานได้ช้ากว่ากำหนด ทำให้การรับรู้รายได้ถูกเลื่อนออกไปที่ไตรมาส 2/56
ทั้งนี้ บริษัทมีต้นทุนจากการรับจ้างสำหรับงวดสามเดือนในปีนี้เท่ากับ 219.94 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งเท่ากับ 301.41 ล้านบาท ส่วนสำหรับค่าใช้จ่ายในการขาย ค่าใช้จ่ายในการบริหาร และค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร สำหรับงวดสามเดือนในปีนี้ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 0.28 ล้านบาท
“ผลงานในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/55 เนื่องจากในช่วงต้นปี 55 บริษัทได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวหลังจากประเทศไทยประสบเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงปลายปี 54 มีงานหลายงานที่ต้องหยุดชะงักไปในช่วงนั้น และมาเริ่มทำในช่วงไตรมาส 1/55 แทน ทำให้ฐานของไตรมาส 1/55 ค่อนข้างสูง อีกทั้งมีงาน 2 โครงการที่เดิมคาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงไตรมาส 1/56 ถูกเลื่อนมาเริ่มในช่วงไตรมาส 2/56 แทน จึงเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ผลงานในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลง แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามที่บริษัทคาดไว้ และมองว่าในไตรมาสแรกของปีนี้น่าจะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี 56"นายบดินทร์ กล่าว