CHG ปิดเทรดเช้าที่ 9.15 บาท เพิ่มขึ้น 2.85 บาท จากราคา IPO ที่ 6.30 บาท เหนือจอง 45.24% โดยเปิดตลาดที่ 10.00 บาท สูงสุด 10.00 บาท ต่ำสุด 8.90 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,363.86 ล้านบาท
บล.เกียรตินาคิน แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์(CHG)ประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 10.30 บาท ด้วยวิธี DCF WACC 8% และมี Terminal Growth 2.5% เทียบเท่า PE ปี 2556 ที่ 28.6 เท่า มีส่วนลด 6% เทียบกับ PE ปี 2556 เฉลี่ยที่ 30.5 เท่าของโรงพยาบาล 3 บริษัทที่ศึกษา(BGH,BH และBCH) และมี Upside 63% จากราคาเสนอขาย IPO ที่ 6.30 บาท
มองว่าบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่น่าสนใจลงทุน เพราะมีเครือข่ายการให้บริการโรงพยาบาล 10 แห่งครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก รวมถึงจังหวัดสมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง นอกจากนี้จุดเด่นที่ตั้งยังครอบคลุมเส้นทางรถยนต์ที่มีอุบัติเหตุสูง ทำให้ได้ประโยชน์จากการเป็นศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน
เครือ CHG ทั้ง 3 แห่งมีเครื่องมือรองรับการรักษาทันสมัย สามารถให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางและโรคร้ายแรงที่มีการรักษาซับซ้อน จึงมีศักยภาพให้บริการระดับทุติยภูมิถึงระดับตติยภูมิและมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงระดับ 30%
ช่วงปี 2553—2555 เครือ CHG มีอัตราการเติบโตของจำนวนลูกค้ากลุ่มเงินสดเฉลี่ยต่อปี 12% ส่วนมีจำนวนลูกค้าประกันสังคมเติบโตเฉลี่ยต่อปี 7% รวมทั้งมีอัตราการใช้บริการของผู้ป่วย OPD และ IPD สูงกว่า 70% โครงสร้างรายได้กระจายตัวจากลูกค้า 2 กลุ่ม ลูกค้าเงินสดทั่วไป และลูกค้าโครงการประกันสังคม ประกอบกับแต่ละกลุ่มมีจุดเด่นต่างกัน โดยกลุ่มลูกค้าเงินสดมีอัตรากำไรขั้นต้น สูงราว 40—42% ส่วนกลุ่มลูกค้าโครงการรัฐมีอัตราค่ารักษาเหมาจ่ายต่อหัวที่แน่นอน
แนวโน้มกำไรสุทธิปี 2556—2560 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 16% จากฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและการขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีฐานะการเงินที่ดีและเป็น Net Cash