ด้านสื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรดของบริษัทยังมีพื้นที่ในการพัฒนาได้อีกมากซึ่งบริษัทได้มีการเพิ่มทีมงานดูแลพื้นที่จัดวางสื่อในโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศกว่า 300 สาขาทั้ง Tesco Lotus และ Big C ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการลูกค้าที่สนใจลงโฆษณาในสื่อดังกล่าว ส่วนสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ลงนามสัญญาติดตั้งและบริหารจัดการสื่อเพิ่มเติมแล้วใน 12 อาคาร ทำให้เครือข่าย 51 อาคารจะขยายเป็น 63 อาคาร
ส่วนธุรกิจสื่ออื่น ๆ ขณะนี้บริษัทได้เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในการขายสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ (Airport Link) และเป็นตัวแทนขายสื่อโฆษณาบนจอ Outdoor LED ตามสี่แยกสำคัญๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวม 10 แห่ง โดยรวมแล้วบริษัทมีเครือข่ายสื่อดิจิตอลทั้งบนบีทีเอส โมเดิร์นเทรด อาคารสำนักงาน และ LED Outdoor ซึ่งทั้งหมดบริหารควบคุมสื่อได้จากระบบส่วนกลางของบริษัท
“เชื่อว่าเป้าหมายเติบโต 30% ที่ตั้งไว้มีความเป็นไปได้ เพราะนอกจากเศรษฐกิจในประเทศจะเติบโตได้ดีแล้วสถานการณ์การเมืองยังมีเสถียรภาพทำให้ไม่น่าจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้การเติบโตของประเทศหยุดชะงัก ตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 ของบริษัท (1 ก.ค-30 ก.ย.) เป็นต้นไปโครงการเพิ่มตู้รถไฟฟ้าในรถไฟฟ้า 35 ขบวนของบีทีเอสจะติดตั้งเสร็จทั้งหมด ประกอบการปรับปรุงสื่อมัลติมีเดียบนสถานีบีทีเอส การเพิ่มประสิทธิภาพทีมสื่อโมเดิร์นเทรด และเครือข่ายเพิ่มเติมในอาคารสำนักงาน ซึ่งนอกจากสัญญาใหม่ 12 อาคารที่กล่าวไปแล้ว ยังมีอาคารที่อยู่ในระหว่างการเจรจาอีกประมาณ 8-10 แห่ง ซึ่งเตรียมจะมาเสริมให้เครือข่ายสื่อโฆษณาของอาคารสำนักงานแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงเชื่อว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน" นายมารุตกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 55/56 (1 เม.ย.55 - 31 มี.ค.56) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,872 ล้านบาท เติบโต 43% จากช่วงเดียวกันของงวดปีก่อน (1 เม.ย.54 - 31 มี.ค.55) ที่มีรายได้รวม 2,005 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 908 ล้านบาท เติบโต 226% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 278 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 4 (1 ม.ค.-31 มี.ค.56) บริษัทมีรายได้รวม 705 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท โดยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมาจากทุกสื่อโฆษณาของบริษัท โดยแบ่งเป็นรายได้จากสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ที่เติบโต 24% สื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) เติบโต 66% และสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานเติบโต 107%