สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A LB196A และ LB155A (รุ่นอายุ 4.1 ปี 6.1 ปี และ 2.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 29,547 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF41DA) มูลค่า 622 ล้านบาท
2. บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC13DA) มูลค่า 299 ล้านบาท
3. บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)(MBK137A) มูลค่า 271 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,192 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 10,381 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 1,016 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 9,179 ล้านบาท
Yield Curve ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในตราสารอายุ 1 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-2 basis point (100 basis point เท่ากับ 1%) ในทิศทางเดียวกันกับ US Treasury จากแรงซื้อของนักลงทุนบางส่วน โดยเฉพาะกองทุนรวมและต่างประเทศ โดยล่าสุด ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจทั้งของสหรัฐฯ ยุโรป รวมถึงประเทศไทย ที่ทยอยประกาศออกมาเริ่มสะท้อนให้เห็นถึงการชะลอตัว ซึ่งส่งผลต่อ Global Sentiment สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อตราสารอายุ มากกว่า 1 ปีขึ้นไป โดยมียอดซื้อสุทธิเท่ากับ 9,179 ล้านบาท