ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าสัดส่วนนักลงทุนสถาบันจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ภายในปี 58 จากขณะนี้อยู่ที่ 10% หลังอาร์เอชบี อินเวสต์เมนท์ แบงก์ เบอร์ฮาด เข้ามาถือหุ้น 99.43%
นายวิคเตอร์ ยูน ตั๊ค ชอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OSK เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ หลังจากผลประกอบการปี 55 ออกมาขาดทุน เนื่องจากมีการย้ายสำนักงานรวมถึงการปรับปรุงระบบไอทีที่มีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก
ในปีนี้บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 2% ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 1.3-1.4% จากการที่บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาบุคคลากรด้านการตลาด รวมถึงการใช้กลยุทธ์และชื่อเสียงของบริษัท เพื่อชักชวนเจ้าหน้าที่การตลาดที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานกับบริษัทให้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดถึงตามเป้าหมายที่วางไว้ 2% ได้
ทั้งนี้ หลังจากที่มีการควบรวมกิจการแล้ว บริษัทคาดว่าจะสามารถดึงให้นักลงทุนสถาบันทั้งในต่างประเทศเข้ามาใช้บริการกับบริษัทเพิ่มมากขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบันมีสัดส่วนนักลงทุนสถาบันอยู่ที่ 10%
นายวิคเตอร์ ยูน ตั๊ค ชอย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้คาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 10-15% จากการคำนวณดัชนีเฉลี่ยในปีนี้ที่ 1,550 จุด แต่มองว่าการปรับตัวขึ้นจะไม่หวือหวาเหมือนก่อนหน้านี้ เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมามากแล้ว
ส่วนในปี 56 บริษัทจะมีการนำบริษัทจดทะเบียนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญกับประชาชน (IPO) เป็นครั้งแรก จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ อมตะ วีเอ็น, บริษัทที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมผลิตรองเท้า และอีกบริษัทหนึ่งไม่เปิดเผยชื่อและประเภทธุรกิจ โดยทั้ง 3 บริษัทคาดว่าจะมีมูลค่าระดมทุนประมาณ 8,000 ล้านบาท