TNDT คาด Q2/56 โตต่อเนื่องจาก Q1/56 หลังเริ่มรับรู้รายได้จากงานราคาใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 17, 2013 11:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไทย เอ็น ดี ที (TNDT)กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/56 คาดว่าจะเติบโตมากขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/56 ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯ ได้ปรับราคาค่าบริการให้สอดคล้องกับต้นทุนค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้ง ในอุตสาหกรรมตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing : NDT) ยังมีความต้องการสูงมาก ปัญหาคือแรงงานที่ไม่เพียงพอ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญในการจัดหาและพัฒนาบุคลากร เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม

ผลประกอบการของบริษัท งวดประจำไตรมาส 1/56 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 56 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 74.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.69 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 6.70 ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 11.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาท หรืออัตราร้อยละ 16.56 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 10.26 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือบางส่วน ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้

“ผลงานไตรมาส 1/56 ที่ออกมา มีกำไรสุทธิเติบโตขึ้นอัตราร้อยละ 6.70 เมื่อเทียบกับ ไตรมาส 1/55 ซึ่งถือว่าบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ดี แม้ในช่วงดังกล่าวภาพรวมต้นทุนบริษัทฯ ยังไม่ค่อยนิ่งนัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง ขณะที่ Backlog ที่รับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในไตรมาส 1/56 บางส่วนยังคงเป็นราคาเดิมอยู่ ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เริ่มทยอยปรับราคาค่าบริการจึงคาดว่า แนวโน้มผลงานในไตรมาส 2/56 จะดีขึ้น และเติบโตมากกว่าไตรมาสที่ผ่านมาได้ เพราะจะเริ่มรับรู้รายได้จากงานราคาใหม่ที่สอดคล้องกับต้นทุนค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาพรวมอุตสาหกรรม NDT ในปีนี้ มีแนวโน้มเติบโตสูง ซึ่งบริษัทฯ ก็มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่ง ในการเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่องจึงมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่วางไว้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%จากปีก่อนได้สำเร็จ"น.ส.ชมเดือน กล่าว

อย่างไรก็ตาม โครงการลงทุนในเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าในประเทศพม่า ซึ่งเป็นการร่วมระหว่างบริษัทฯ กับพันธมิตรและพม่านั้น ยังอยู่ระหว่างขบวนการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะพยายามรุกตลาดต่างประเทศ โดยคาดว่า สัดส่วนงานในต่างประเทศปีนี้ จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ราว 10% ของรายได้รวม จากปีก่อน สัดส่วนรายได้ต่างประเทศอยู่ที่ 5% ของรายได้รวม และเพิ่มงานด้าน Advanced NDT ให้มากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ