ตลท.เผย Q1/56 บจ.มีกำไร 2.4 แสนลบ. โต 12.80% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 20, 2013 17:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET)จำนวน 448 บริษัท หรือ 92.18% ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด 486 บริษัท(ไม่รวมบริษัทในกลุ่ม NC และ NPG) นำส่งผลการดำเนินงานงวดสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.56 แล้ว โดยมี บจ.ที่มีกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานจำนวน 381 บริษัท คิดเป็น 85.04% ของบริษัทจดทะเบียนที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด โดยยอดขายไตรมาส 1/56 อยู่ที่ 2,632,667 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.88% จากงวดเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 241,610 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.80% อัตรากำไรขั้นต้น 18.26% จาก 17.57% ในปีที่แล้ว และอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 9.18% จาก 8.53% ด้านอัตราส่วนหนี้สินรวมต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.29 เท่า

“กำไรสุทธิที่เติบโตสูงแสดงถึงความสามารถในการบริหารต้นทุนขายที่ดี ภาคธุรกิจที่มีความโดดเด่นได้แก่ บจ.ในภาคการเงินและการผลิตที่เติบโตดี เนื่องจากสินเชื่อภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ขยายตัว ดัชนีและมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยที่เพิ่มขึ้นสูง และทิศทางของธุรกิจประกันภัยที่ดีขึ้นจากรายได้เบี้ยประกันภัยและการลงทุน ขณะที่ผลกระทบจากน้ำท่วมลดลง"นายชนิตร กล่าว

ส่วนผลการดำเนินงานของ บจ. ในภาคการผลิตโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศมียอดขายและกำไรเติบโตโดดเด่น ได้แก่ พาณิชย์ ยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการแพทย์ นอกจากนี้ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยมีผลการดำเนินงานดีขึ้นและมีทิศทางเติบโตดีต่อเนื่องจากมูลค่างานรอส่งมอบ (Backlog) อยู่ในระดับสูง

ขณะที่นธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีทิศทางดีขึ้นแม้จะยังมีแรงกดดันจากค่าแรงขั้นต่ำ การแข็งค่าของเงินบาท และเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวซึ่งปัจจัยดังกล่าวยังส่งผลต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจในหมวดการเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม แฟชั่น และของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน ด้วย" นายชนิตรกล่าว

บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ. ปตท. (PTT) บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)

กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรกจาก 8 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสูงสุด ได้แก่ ทรัพยากร ธุรกิจการเงิน และบริการ

สำหรับหมวดธุรกิจที่มีกำไร สูงสุด 3 อันดับแรก จาก 27 หมวดธุรกิจ ได้แก่ พลังงานและสาธารณูปโภค ธนาคาร และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยทั้ง 3 หมวดมีกำไรสุทธิรวม 144,377 ล้านบาท คิดเป็น 59.76% ของกำไรสุทธิรวมทั้งหมด และยอดขายรวมของทั้ง 3 หมวดคิดเป็น 55.12% ของยอดขายรวมทั้งหมด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ