ทั้งนี้ กองทุนจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 11 มิถุนายน 2556 โดยใช้ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ว่า "ECOMM"
จุดเด่นของกองทุน ECOMM คือ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนเคลื่อนไหวตามดัชนีหมวดธุรกิจพาณิชย์ (SET Commerce Sector Index) ก่อนหักค่าใช้จ่ายของกองทุน โดยให้ความคล่องตัวในการซื้อขายแบบ Real Time ตามราคาในกระดานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยราคาต่อหน่วยคิดเป็นเงินเพียงประมาณ 6 บาท และสามารถทราบราคาซื้อขายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอราคาปิดสิ้นวันเหมือนกองทุนรวมอื่นๆ
นอกจากนี้ กองทุนยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี โดยมีบล.เอเซีย พลัส(ASP) เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง
ดัชนีหมวดธุรกิจพาณิชย์ ประกอบด้วยหุ้นกลุ่มธุรกิจพาณิชย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันดัชนีหมวดธุรกิจพาณิชย์ประกอบด้วยหุ้นบริษัททั้งสิ้น 16 บริษัท ได้แก่ BEAUTY BIGC BJC CPALL GLOBAL HMPRO IT KAMART LOXLEY MAKRO MIDA OFM ROBINS SINGER SPC และ SPI โดยแบ่งอัตราส่วนตามมูลค่าตลาด โดย ณ วันที่ 30 เมษายน 2556 มีสัดส่วนประมาณ 10% ของดัชนีตลาดโดยรวม
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจพาณิชย์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 39.49% ในขณะที่ตลาดโดยรวมมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.20% และคาดว่าทางกลุ่มธุรกิจพาณิชย์จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภค และการขยายเขตของความเป็นเมืองไปในต่างจังหวัด รวมถึงโอกาสการกระจายสินค้าไปยังประเทศอื่นๆในกลุ่มอาเซียนตามการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จากความสามารถทางการแข่งขันที่เหนือกว่าคู่แข่งในภูมิภาค นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นของประชากรทั่วทั้งประเทศจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของภาครัฐอีกด้วย