นอกจากนี้ บริษัทได้ยื่นขอใบอนุญาตเปิดสาขาในต่างประเทศที่เน้นในกลุ่มอาเซียน ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 3/56 จะได้ข้อสรุปได้ 1 สาขาโดยบริษัทจะลงทุนเองทั้งหมด เบื้องต้นบริษัทเตรียมงบไว้ไม่เกินประเทศละ 20 ล้านบาท
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในไตรมาส 1/56 ขยับขึ้นมาที่ 3.9% จากปีก่อนอยู่ที่ 3.6% เนื่องจากลูกค้าชะลอการจ่ายค่างวด เป็นผลจากผลผลิตทางการเกษตรไม่ดีตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และต้นปีก็ยังเผชิญภาวะแล้ง ลูกค้าจึงจ่ายค่างวดล่าช้า โดยในไตรมาส 2/56 คาดว่า NPL จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ทั้งปีคาดว่า NPL ไม่น่าเกิน 5-6%
"ช่วงนี้ฝนเริ่มตก เกษตรกรน่าจะได้ผลผลิตที่ดีขึ้น ก็เชื่อว่าการจ่ายค่างวดน่าจะตรงเวลามากขึ้น...ปีนี้ ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 10% ภายใต้ไม่มีปัญหาการเมือง เศรษฐกิจโดยรวมโตดี แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งงบ 3.5 แสนล้านบาทสำหรับโครงการน้ำ และ 2.2 ล้านล้านบาทที่เป็นงบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับเป็นงบลงทุนของภาครัฐใน 3-5 ปีข้างหน้าจะช่วยเศรษฐกิจไปได้ดี และถ้าระบบ Infrastructure ดี การท่องเที่ยวดี อุตสาหกรรไทยไปได้ดี ก็จะสนับสนุนกำลังซื้อ" นายประพล กล่าว
ส่วนเงินบาทที่แข็งค่า ขณะนี้ยังไม่กระทบมากนัก ขณะที่มองว่าบริษัทมีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ดี ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณ
ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 2/56 คาดว่าจะดีกว่างวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งโดยปกติไตรมาส 2 เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ที่ตลาดรถจักรยานยนต์ชะลอไม่เหมือนในไตรมาส 1 ที่ได้รับเงินโบนัส และไตรมาส 4 ซึ่งได้ประโยชน์หลังฤดูเก็บเกี่ยว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุน 100 ล้านบาท ใช้ขยายสาขา และพัฒนาระบบไอที สำหรับปี 56