ฟิทช์ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ 6 พันลบ. SCCC ที่ A(tha)แนวโน้มมีเสถียรภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 23, 2013 16:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวที่ระดับ ‘A(tha)’ แก่หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่รวม 2 ชุด ของบมจ. ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) (ซึ่งมีอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1(tha)’

หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทฯ เนื่องจาก หุ้นกู้ดังกล่าวถือเป็นหนี้ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีหลักประกันของบริษัทฯโดยเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นี้จะนำมาใช้ชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ถึงกำหนดไถ่ถอน และใช้สำหรับการลงทุนในอนาคต

อันดับเครดิตที่จัดมีดังนี้ หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันมูลค่าไม่เกิน 4.0 พันล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2560 อันดับเครดิต ‘A(tha)’ และ หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันมูลค่าไม่เกิน 2.0 พันล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2563 อันดับเครดิต ‘A(tha)’

อันดับเครดิตของ SCCC สะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำทางการตลาดของบริษัทฯ ที่มีกำลังผลิตและยอดขายปูนซีเมนต์และคอนกรีตผสมเสร็จสูงเป็นอันดับที่สองในประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรักษากำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย รวมถึง อัตราส่วนกำไรต่อรายได้ให้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ท่ามกลางแรงกดดันจากภาวะการแข่งขันทางด้านราคาและต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น การขยายตัวของตัวเมืองในต่างจังหวัด และ แผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากของภาครัฐ น่าจะส่งผลให้อุปสงค์ของปูนซีเมนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น และทำให้ยอดขายปูนซิเมนต์และคอนกรีตผสมเสร็จของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2556 ถึง 2558

ฟิทช์เชื่อว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (adjusted net debt to EBITDAR) ที่อยู่ในระดับที่ต่ำของบริษัทฯ ที่ 0.5 เท่า ณ สิ้นปี 2555 น่าจะช่วยให้บริษัทฯ มีความยืดหยุ่นที่เพียงพอในการที่จะรักษาอัตราส่วนหนี้สินดังกล่าว ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าสองเท่าได้ในช่วงสองปีข้างหน้า แม้ว่าบริษัทฯ จะมีค่าใช้จ่ายลงทุนในระดับที่สูงในช่วงระยะเวลาดังกล่าว โดยค่าใช้จ่ายลงทุนที่คาดว่าจะสูงขึ้นดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายลงทุนในการเพิ่มกำลังการผลิตของบริษัทฯ ซึ่งน่าจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.0 เท่าถึง 1.5 เท่าในช่วงปี 2556 ถึง 2557 ในขณะที่อัตราส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในทรัพย์สินและหนี้สินต่อดอกเบี้ยจ่าย น่าจะยังคงแข็งแกร่งอยู่ในระดับ 10 เท่าถึง 20 เท่า

อัตราส่วนกำไรของบริษัทฯ ยังคงมีความอ่อนไหวต่อระดับราคาพลังงานโดยเฉพาะราคาถ่านหินและไฟฟ้า แต่แรงกดดันจากราคาถ่านหินน่าจะบรรเทาลงในปี 2556 เมื่อเทียบกับในช่วงสามปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าภาวะการแข่งขันทางด้านราคาซึ่งเกิดจากกำลังผลิตส่วนเกินในประเทศจะยังคงจำกัดความสามารถของบริษัทฯในการผลักภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นไปยังผู้บริโภคในช่วงสองถึงสามปีข้างหน้า

อันดับเครดิตของ SCCC ถูกจำกัดจากการที่บริษัทฯ มีรายได้ส่วนใหญ่จากการขายผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ กำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายส่วนใหญ่ของบริษัทฯ มาจากการขายสินค้าในประเทศไทย ซึ่งยังคงมีกำลังผลิตส่วนเกิน ซึ่งนำไปสู่ภาวะการแข่งขันทางด้านราคาเป็นครั้งคราว

ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคต โดยปัจจัยบวกเห็นว่าการเพิ่มขึ้นของขนาดธุรกิจและการกระจายตัวของแหล่งรายได้อย่างมีนัยสำคัญโดยที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่ายังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 1.0 เท่า อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าการปรับเพิ่มอันดับเครดิตไม่น่าจะเกิดขึ้นในช่วง 18 เดือนข้างหน้าเนื่องจากแผนการลงทุนในระดับที่สูงของบริษัทฯ

ส่วนปัจจัยลบ จากอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง หรือการลงทุนขนาดใหญ่ที่ใช้เงินกู้เป็นแหล่งเงินทุน หรือการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่าที่คาด ซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า สูงกว่า 2.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ