ปัจจุบันบริษัทมีงานอยู่ในมือประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด โดยปีนี้บริษัทฯคงเป้าหมายรายได้ในปี 56 จะเติบโตประมาณ 30% จากปี 55 ที่ 306.30 ล้านบาท และคาดว่า รายได้ในปี 57-58 ของบริษัทจะเติบโตเฉลี่ยที่ 30% จากที่ประเมินว่าลูกค้าจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ทั้งนี้ในด้านอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้บริษัทคาดว่าจะเติบโตมากขึ้น จากที่ไตรมาส 1/56 สามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ถึง 36% จากปี 55 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 28 % ในขณะเดียวกันอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯในปีนี้ก็จะเติบโตขึ้นจากปีก่อนจากที่ไตรมาส 1/56 ที่มีกำไรสุทธิถึง 14-15% จากปี 55 ที่ 6% เนื่องจากบริษัทฯได้มีการลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบซอฟต์แวร์ระบบของธุรกิจ เพื่อเสริมศักยภาพการผลิตในด้านออกแบบ ทำให้กำลังการผลิตของบริษัทฯปรับตัวสูงขึ้น โดยที่ไม่ได้มีการเพิ่มจำนวนคน บริษัทฯจึงสามารถลดต้นทุนในการบริหารงานได้มาขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น และ อัตรากำไรสุทธิ เติบโตมากขึ้น
นายนรากร กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนจะเปิดสาขาในประเทศ อินโดนีเซีย ในช่วงเดือน เม.ย.57 ซึ่งเป็นศูนย์เพื่อให้บริการ ซ่อมบำรุง และ จัดจำหน่าย โดยบริษัทฯได้มีการเตรียมการมานานกว่า 3-4 แล้ว
“การที่เราเข้าไปเปิดสาขาในประเทศอินโดนิเซียก่อนเพราะว่า ลูกค้าในประเทศนี้จะไม่ซื้อสินค้าของบริษัทฯ หากเราไม่เป็นคนที่เข้าไปบำรุงรักษาให้ ซึ่งหลังจากที่เราได้มีการพูดคุยกับลูกค้าว่าจะมีการเปิดสาขา ก็ทำให้เริ่มมีผู้สนใจเข้ามาสั่งเครื่องจักรของบริษัทฯแล้ว"นายนรากร กล่าว
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/56 มองว่าจะมีการเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาส 1/56 ที่ผ่านมา ที่มีรายได้ประมาณ 94.24 ล้านบาท