บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(BTS) ถูกถอดออกจากดัชนี MSCI Global Small Cap ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 พ.ค.จะเป็นปัจจัยลบในช่วงสั้นต่อราคาหุ้น แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยลบต่อปัจจัยพื้นฐานแต่อย่างใด เนื่องจากการถูกถอดออกเกิดจาก Market Cap ของ BTS ซึ่งปัจจุบันสูงเกินกว่าจะเป็นหุ้น Small Cap แล้ว จึงเชื่อว่าเป็นจังหวะในการ “ทยอยสะสม" สำหรับการลงทุนระยะกลางขึ้นไป โดยให้ราคาเหมาะสม 12.30 บาท
ทั้งนี้ BTS จะรายงานกำไรผลประกอบการ 4Q55/56 ในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราสูงสำหรับการลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ได้แก่ คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงาน 4Q55/56 หุ้นละ 0.10 บาท ในสัปดาห์นี้ และเงินปันพิเศษที่จะบันทึกกำไรพิเศษจากการจัดตั้งกองทุน BTSGIF ในรอบบัญชี 1Q56/57 หุ้นละ 0.80 — 1.00 บาท ในช่วงกลางเดือน ส.ค. ดังนั้น คาดว่า BTS จะจ่ายเงินปันผลรวม ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า สูงถึงหุ้นละ 0.90 — 1.10 บาท หรือ คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 10.7 — 13.1%
พร้อมทั้งคงมุมมองเชิงบวก ต่อการเติบโตในระยะยาว เนื่องจากมีเงินสดในมือถึง 3 หมื่นล้านบาท จึงมีความพร้อมทางการเงินเต็มที่ต่อการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปอย่างน้อย 2 เส้นทางในปี 2556 และเป็น Upside ที่ยังไม่รวมอยู่ในประมาณการ
นอกจากนี้ คาดว่ากำไรปกติปี 2556 จะเติบโต +23.4% yoy เป็น 2,435 ล้านบาท และต่อเนื่อง +22% yoy เป็น 2,971 ล้านบาท ในปี 2557