นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร ASP เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายกำไรปี 56 เติบโต 40% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 603.14 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/56 มีกำไรสุทธิถึง 394.42 ล้านบาท แต่บริษัทคาดว่าจะมีการปรับเป้าหมายผลประกอบการอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากมองแนวโน้มของธุรกิจหลักทรัพย์ในปีนี้จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น จากภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ที่ยังเติบโตได้ดี ยังสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจวานิชธนกิจ จากที่ปีนี้มีบริษัทใหม่ๆเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นจำนวนมากและปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นรวมไปถึงการเพิ่มทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การออกหุ้นกู้ การควบรวมกิจการ ส่งผลให้ผลประกอบการปีนี้จะเติบโต
บริษัทคาดว่าไตรมาส 2/56 จะยังมีการเติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาส 1 เนื่องจากยังมองภาพรวมของทั้งเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจต่างประเทศ ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปริมาณการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ไทยที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 5 หมื่นล้านบาท/วัน ทำให้แนวโน้มบริษัทจะยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามไปด้วย
ขณะเดียวกัน คาดว่าการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.75% เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาท โดยมองว่าผลตอบแทนในตราสารหนี้และพันธบัตรมีจำนวนมากแล้ว
นายก้องเกียรติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานด้านวาณิชธนกิจในมือ 22 ดีล แบ่งเป็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 11 ราย การขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชน (PO) 8 ราย และเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอีก 8 ราย ขณะเดียวกันปัจจุบันบริษัทฯยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของหลักเกณฑ์การรับบริษัทโฮลดิ้งคอมพานี (Holding Company) เพื่อนำบริษัทจากจีนเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยช่วงปลายปี 56 จำนวน 1 บริษัท จากที่ได้มีการเซ็นสัญญาเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 5 บริษัท ซึ่งบริษัทดังกล่าวอยู่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีกำไรอยู่ 500-1,000 บาท/ปี